“มะขามป้อมแป้นสยาม” พันธุ์ไทยต้นเตี้ยดกผลใหญ่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 14 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/605347

 

มะขามป้อม เป็นไม้ผลทนแล้งได้ดี และ “มะขามป้อมแป้นสยาม” เป็นสายพันธุ์ไทยแท้ๆที่เกิดจากเกษตรกรชื่อ “จุ่น คงมันธี” ได้เก็บเอาผลติดเมล็ดของมะขามป้อมที่พบขึ้นในป่าธรรมชาติเขตพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งขนาดของผลโตเท่าปลายนิ้วหัวแม่มือผู้ใหญ่ เป็นขนาดของผลมะขามป้อมไทยทั่วไปจำนวนเกือบร้อยเมล็ดไปเพาะเป็น ต้นกล้าแล้วแยกต้นปลูกเลี้ยงจนต้นโต มีดอกและติดผล ปรากฏว่าความสูงของต้นเตี้ย 1-2เมตร สามารถมีดอกและติดผลขนาดใหญ่โตเท่าลูกปิงปองได้แล้ว รูปทรงของผลกลมแป้นน่าชมมาก น้ำหนักผล 20-25 ผลต่อ 1 กิโลกรัม เชื่อว่าเป็นมะขามป้อมกลายพันธุ์และขยายพันธุ์ปลูกทดสอบความนิ่งอยู่หลายวิธี จนแน่ใจว่ากลายพันธุ์ถาวรแล้วจึงตั้งชื่อว่า “มะขาม ป้อมแป้นสยาม” ดังกล่าว

มะขามป้อมแป้นสยาม หรือ EM–BLIC MYROBALAN PHYLLAN THUSEMBLICA LINN. อยู่ในวงศ์ EUPHORBIACEAE เป็นไม้พุ่มเตี้ยสูงไม่เกิน 3 เมตร ดอกเป็นสีเหลืองนวล “ผล” กลมแป้น ผลขนาดใหญ่เกือบเท่าลูกปิงปองตามที่กล่าวข้างต้น ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่จัดเป็นสีเขียวอ่อน ฉ่ำน้ำ เนื้อผลรสชาติเปรี้ยวปนฝาด ติดผลดกเต็มต้นตามฤดูกาลคือระหว่างเดือนมกราคม ต่อเนื่องไปจนถึงผลแก่จัดระหว่างเดือนเมษายนของทุกปี ขยายพันธุ์ทั่วไปด้วยเมล็ด

จัดเป็นมะขามป้อมพันธุ์ไทยแท้ๆ ที่เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลใช้ประโยชน์ในครัวเรือนและเก็บผลขายได้คุ้มค่ามาก เนื่องจากต้นเตี้ยติดผลดกโดยธรรมชาติ และทนแล้งได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันผลมีราคาถึงกิโลกรัมละประมาณ 100 บาท หากนำไปแปรรูปเป็นมะขามป้อมแช่อิ่มจะเพิ่มราคาไม่น้อยกว่า 200 บาท

ใคร ต้องการต้นพันธุ์แท้ ติดต่อ “สวนณัฐพนธ์ฟาร์ม” 48/4 หมู่ 7 ต.โคกไม้ลาย อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โทร.08–6383–3061, 09–5593–2468 ราคาสอบถามกันเอง ต่างจังหวัดสามารถส่งทางไปรษณีย์ได้ด้วยครับ.

“นายเกษตร”

 

“มะปรางไข่หวาน” เนื้อหวานราคาดี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 13 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/604847

 

มะปรางชนิดนี้ มีต้นวางขายมีป้ายชื่อติดไว้ว่า “มะปรางไข่หวาน” พร้อมมีภาพถ่ายผลจริงโชว์ให้ชมด้วย ผู้ขายบอกที่มาของชื่อและที่มาของสายพันธุ์ไม่ได้ แต่ยืนยันว่าเนื้อหวานอร่อยราคากิโลกรัมละหลายร้อยบาทเท่านั้น ซึ่งมะปรางทั่วไปมีหลายพันธุ์มีทั้งผลเล็กและใหญ่ รสชาติจะแตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ โดยมะปรางนิยมปลูกกันมาตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแล้ว ต่อมาได้กระจายพันธุ์ปลูกลงมาสู่ภาคกลางตั้งแต่ จ.อ่างทอง จ.นนทบุรี และแถบใกล้เคียงก่อนจะปลูกไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปตามแหล่งที่ปลูก ซึ่ง “มะปรางไข่หวาน” จัดอยู่ในจำนวนนั้นด้วย

มะปรางไข่หวาน เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร ใบเดี่ยว ออกตรงกันข้ามเป็นคู่ๆรูปรี ปลายแหลม โคนมน ใบอ่อนเป็นสีม่วงแดง ดูคล้ายกับใบมะม่วง ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ลักษณะเป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลือง กลีบดอกมี 4 กลีบ เป็นสีเหลืองสด มีเกสรตัวผู้ 10 อัน ดอกบานได้นาน 3-5 วันก่อนจะร่วง “ผล” รูปกลมรี ปลายเรียวเล็กน้อย ผลอ่อนสีเขียวหรือเขียวอ่อน และจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือสีเหลืองอมส้มเมื่อผลสุก เนื้อหนา รสหวาน อาจมีรสเปรี้ยวปนเล็กน้อยตามแต่ละสายพันธุ์ที่กล่าวข้างต้น มี 1 เมล็ด ติดผลดกปีละครั้งตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด

ความแตกต่างของรสชาติระหว่างมะปรางกับมะยงชิดทั่วไปคือ มะยงชิดปอกเปลือกแล้วกินเนื้อจะมีรสหวาน เพราะเปลือกมะยงชิดมีรสเปรี้ยว ซึ่งถ้ากินทั้งเปลือกจะหวานปนเปรี้ยว ส่วนมะปรางปอกเปลือกกินเนื้อจะหวานเพียงอย่างเดียวล้วนๆ

ปัจจุบัน “มะปรางไข่หวาน” มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 11 แผง “คุณหมู” โทร.08–1861–6644 ราคาสอบถามกันเอง เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลกินในครัวเรือนหรือเก็บผลขายกิโลกรัมละหลายบาทครับ.

“นายเกษตร”

 

“มะม่วงพระยาลืมเฝ้า” ดกหวานพอดี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 12 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/604404

 

มะม่วงชนิดนี้ เป็นพันธุ์ไทยโบราณที่นิยมปลูกเฉพาะถิ่นในแถบภาคกลางมาช้านานแล้ว โดยเฉพาะ จ.นนทบุรี และย่านตลิ่งชัน เขตบางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี กทม. ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า เวลามะม่วงดังกล่าวติดผลจะดกเต็มต้นน่าชมยิ่ง ถ้าหากผู้ปลูกไม่มีคนคอยเฝ้าหรือดูแลจะถูกคนขโมยสอยเก็บเอาผลไปจนเกลี้ยงต้น เลยถูกเรียกชื่อว่า “มะม่วงพระยาลืมเฝ้า” ดังกล่าว และถูกเรียกกันเรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้

ส่วนรสชาติ ของเนื้อสุกเท่าที่ได้ทดลองกินปรากฏว่า มีรสหวานหอมใช้ได้ แต่จะไม่ถึงกับหวานจัด หากรับประทานกับข้าวเหนียวมูนจะมีรสชาติหวานได้แบบพอดีเลย เนื้อในผลสุกมีสีสวยไม่เละ ผลดิบผู้ที่เคยกินบอกว่า เนื้อกรอบรสเปรี้ยวปนมันปอกเปลือกแล้วฝานเป็นชิ้นบางๆจิ้มน้ำปลาหวานหรือพริกเกลือป่นอร่อยมาก

มะม่วงพระยาลืมเฝ้า เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร ใบเดี่ยว ออกเรียงสลับถี่บริเวณปลายยอด ใบรูปรีแกมรูปใบหอก ปลายแหลม โคนมน ใบจะคล้ายใบมะม่วงชื่อแม่ลูกดก สีเขียวสด ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ดอกเป็นสีเหลืองนวล มีกลิ่นหอม “ผล” มีรูปทรงใกล้เคียงกับผลของมะม่วงแม่ลูกดก ผลดิบรสเปรี้ยวปนมันหรือเปรี้ยวจัด สมัยก่อนนิยมสับทำยำมะม่วงหรือสับละเอียดเอาไปขยำกับพล่าเนื้อเพิ่มรสเปรี้ยวไม่ต้องใช้น้ำมะนาวรับประทานหอมอร่อยมาก ผลสุกเนื้อเป็นสีเหลืองเข้มมีเสี้ยนน้อย ไม่เละแม้สุกงอม เมล็ดบางและลีบติด
ผลง่ายและติดผลดกตามฤดูกาลทุกปีอย่างสม่ำเสมอแม้ต้นจะมีอายุหลายปีก็ยังคงติดผลดกเหมือนเดิม ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง

มีต้นแท้ขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 17 แผง “นายดาบสมพร” โทร.08–6605–4945 ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลกินในครัวเรือนหรือเก็บผลขายได้คุ้มค่ามากครับ.

“นายเกษตร”

 

“หญ้างวงช้าง” ไม่มีต้นขายสรรพคุณดี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 11 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/603909

 

หญ้างวงช้าง ไม่มีต้นขาย เนื่องจาก มีขึ้นเองตามธรรมชาติในที่รกร้างว่างเปล่าข้างทางทั่วไป มีสรรพคุณทางสมุนไพรหลายอย่าง เช่น ทั้งต้นแบบสดรวมราก 1 ต้นหั่นต้มกับน้ำประมาณ 1.5 ลิตร จนเดือด ดื่มครั้งละ 3 ส่วน 4 แก้ว วันละ 3-4 เวลา ตอนไหนก็ได้ จะช่วยละลายนิ่วในกระเพาะปัสสาวะให้หายได้ ในตำรายาไทยโบราณระบุว่า ทั้งต้นเป็นยาแก้กระหายน้ำ ละลายก้อนนิ่ว ตำพอกแก้พิษฝี ผสมใบและดอกชมเห็ดไทยกับใบและดอกผักเสียนผีพอกแก้ปวดตามข้อเข่าข้อไหล่ โดยเมื่อรู้สึกร้อนให้เอาเนื้อยาออกวันละ 2 เวลา แล้วทาน้ำมันมะพร้าวต่อจะช่วยให้ดีขึ้นทั้งต้นมีสารกลุ่ม PYRROLIZIDINE ALKALOID เป็นพิษต่อตับควรระวังในการดื่ม สารสกัดจากต้นแห้งแก้อาการอักเสบ และ เพิ่มการเจริญของเนื้อเยื่อแผล

หญ้างวงช้าง หรือ INDIAN HELIOTRO PE HELIOTROPIUM INDICUM (L.) R.BR. อยู่ในวงศ์ BORAGINACEAE

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” ไม่วางขายที่ไหนหมดแล้วหมดเลย ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ป.ณ.48 ปณ.สามแยกลาดพร้าว กทม.10900 หรือสอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร กระเทียมโทนแคปซูล ผสมสมุนไพรหลายอย่างแก้หอบหืด, แก้ถุงลมโป่งพอง, แห้วหมูแคปซูล ลดความดันโลหิตสูง, ยาบำรุงไตแคปซูล ไม่ใช่รักษาไต, เพชรสังฆาตแคปซูล แก้ริดสีดวงทวาร, ดีบัวแคปซูล ขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองหัวใจ, ตรีผลาแคปซูล ลดไขมันในเส้นเลือดลดไตรกลีเซอไรด์, น้ำมัน 12 ประดงทาภายนอก ฆ่าเชื้อสมานแผลแก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน แพ้เหงื่อ, ยาแก้ริดสีดวงจมูกแคปซูล แก้น้ำมูกมีกลิ่นเหม็น, ครีมโลดทนงรักษาสิวฝ้า รูขุมขนตีบลง, แชมพูสูตร 5 ชนิด บำรุงรากผมขจัดรังแคแก้คันศีรษะ, ข่อยขัดรักแร้ ดับกลิ่นเต่า รักแร้หายดำคล้ำ, คอลลาเจนบริสุทธิ์ เป็นผงทาหน้าช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, ยาต้นคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อย แก้เกาต์, โลชั่นบำรุงผิวและอื่นๆ โทร.0–2275–2692 ครับ.

“นายเกษตร”

 

“กระท้อนผอบทอง” ดกเนื้ออร่อยขายคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 8 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/602391

 

กระท้อนชนิดนี้ มีลักษณะประจำพันธุ์คือ เนื้อเป็นปุยฟูและหนานุ่ม สามารถใช้ช้อนตักรับ-ประทานได้จนถึงเปลือก โดยรสชาติจะหวานสนิทไม่มีรสเปรี้ยวหรือฝาดเจือปนเลย ส่วนใหญ่เนื้อเปลือกกระท้อนจะมีรสเปรี้ยวและฝาด จัดเป็นกระท้อนพันธุ์เบา ติดผลง่ายให้ผลผลิตสูงหลังปลูกแค่ 2 ปีเท่านั้นจะเริ่มติดผลเป็นชุดแรก และจะติดผลดกขึ้นเรื่อยๆเมื่อต้นมีอายุได้ 4 ปีขึ้นไปตามภาพประกอบคอลัมน์ นอกจากนั้น “กระท้อนผอบทอง” ยังแตกต่างจากกระท้อนสายพันธุ์อื่นคือ เวลาติดผลจะแก่ได้เร็วกว่าประมาณ 15 วัน ทำให้ผู้ปลูกเก็บผลขายได้ก่อนกระท้อนพันธุ์อื่น สร้างรายได้ก่อนใคร และที่สำคัญเวลาติดผลไม่ต้องห่อผลป้องกันแมลงอีกด้วย น้ำหนักผลเมื่อโตเต็มที่อยู่ระหว่าง 4-6 ขีดต่อผล ผลอ่อนสีเขียว พอผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองยังไม่ถึงแก่หรือสุกเนื้อในจะหวาน กินได้เลย ผลสุกหรือแก่เป็นสีเหลืองจัด รูปทรงของผลกลมแป้นเล็กน้อยทำ ให้ดูเหมือนกับผอบทองโบราณ จึงถูกตั้งชื่อว่า “กระท้อนผอบทอง” ดังกล่าว ผลสุกสามารถติดอยู่กับต้นได้นานโดยเนื้อในไม่เป็นโรคน้ำหมาก รับประทาน อร่อย เหมือนเดิม

กระท้อนผอบทอง หรือ SANDORI-CUM INDICUMCAR, KOETJAPE-MERR อยู่ในวงศ์ MELIACEAE เป็นกระท้อนสายพันธุ์โบราณ มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมที่ จ.นนทบุรี ถูกนำไปปลูกต่างถิ่นครั้งแรกเมื่อประมาณปี พ.ศ.2505 ที่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สามารถเจริญเติบโตมีดอกและติดผลดกได้ดีเหมือนปลูกในถิ่นเดิมทุกอย่างและติดผลดกมากตามที่ระบุข้างต้น ส่วนต้นแม่เดิมที่ จ.นนทบุรีนั้นถูกน้ำท่วมตายในเวลาต่อมา ขยายพันธุ์ทั่วไปด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง เสียบยอด และติดตา

ใคร ต้องการกิ่งตอนด้วยระบบติดตาต้นแท้ ติดต่อ “คุณประภาส สุภาผล” 33/4 หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร.08-8533-2299 หรือ “สวนณับธิดาพันธุ์ไม้” โทร.08-0646-4699 ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ทุกภาคของประเทศ ไทย เหมาะจะปลูกเก็บผลกินในครัวเรือน หรือเก็บผลขายได้คุ้มค่ามากครับ.

“นายเกษตร”

 

“สมอพิเภก” คุณค่าดี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 7 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/601940

 

ไม้ต้นนี้ เป็นไม้มีขึ้นเฉพาะถิ่นในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบขึ้นตามป่าธรรมชาติในทุกๆภาค และในยุคสมัยก่อนนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายตามวัดวาอาราม เนื่องจากเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ใบดกหนาแน่นให้ร่มเงาดีมากนั่นเอง มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ TERMINALIA BELLIRICA (GAERTN) ROXB ชื่อสามัญ BELERIC MYROBALAN อยู่ในวงศ์ COMBRETACEAE เป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบ สูง 20-35 เมตร กิ่งอ่อนมีขน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับรูปไข่กลับหรือรูปรี ปลายมนหรือเป็นติ่งสั้น โคนสอบเป็นรูปลิ่ม ผิวใบด้านบนมีขนสีน้ำตาลอ่อน เมื่อใบโตเต็มที่ขนจะหลุดและหายไป บริเวณกลางก้านใบจะมีตุ้ม 1 คู่

ดอก ออกเป็นช่อเดี่ยวๆตามซอกใบหรือตามกิ่งก้าน ปลายช่อดอกห้อยลง ช่อยาว 10-15 ซม. มีกลีบเลี้ยงขนาดเล็กจำนวน 5 แฉก ไม่มีกลีบดอก มีเกสรตัวผู้ 10 อัน ดอกเป็นสีขาวแกมเหลืองอ่อน “ผล” รูปกลมหรือรี มีพูตื้นๆ 5 พู ผิวผลมีขนสีน้ำตาลหนาแน่น มีเมล็ด 1 เมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด มีชื่อเรียกอีกคือ ลัน, สมอแหน, สะคู้, แหน, แหนขาว, แหนต้น, สมอใหญ่ และ ลูกหมอพ่อยักษ์

ประโยชน์ เปลือกต้นใช้ฟอกหนังย้อมผ้าให้สีเขียวขี้ม้า เนื้อไม้ก่อสร้างบ้านเรือน ทำหีบเครื่องมือเกษตรและต่อเรือ

ทางสมุนไพร ผลอ่อนมีรสเปรี้ยวกินแก้ไข้ แก้ลม ผลแก่รสฝาดแก้โรคตา บำรุงธาตุ แก้ไข้ แก้ริดสีดวงทวาร เมล็ดในกินแก้บิด ใบสดตำพอกบาดแผลสด เปลือกต้นต้มน้ำดื่มขับปัสสาวะ รากแก้โลหิตพิการทำให้ร้อน

ปัจจุบันต้น “สมอพิเภก” มีขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 21 แผง “คุณพร้อมพันธุ์” ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย สามารถสร้างระบบนิเวศได้ดีครับ.

“นายเกษตร”

 

“มะยงชิดท่าอิฐ” ดกใหญ่หวานกินขายคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 6 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/601389

 

มะยงชิดชนิดนี้ มีประวัติเริ่มปลูกในยุคสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นมะปรางชนิดหนึ่งที่เกิดจากการกลายพันธุ์จนผลมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื้อหนา เมล็ดเล็ก รสชาติหวานนำและปนเปรี้ยวตามเล็กน้อย วัดความหวานได้ประมาณ 17.1 องศาบริกซ์ ในสมัยดังกล่าวนิยมเรียกว่า มะปรางเสวย และมีแหล่งปลูกใหญ่ในท้องที่ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.นนทบุรี จากนั้นได้กระจายพันธุ์ปลูกไปยังพื้นที่ใกล้เคียงแถบ ต.บางขุนนนท์ อ.บางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี ในยุคสมัยนั้น ได้รับความนิยมจากผู้ปลูกและผู้รับประทานอย่างกว้างขวางในชื่อ “มะยงชิดท่าอิฐ” ตามแหล่งปลูกครั้งแรกและเรียกกันเรื่อยมาจนทุกวันนี้

มะยงชิดท่าอิฐ อยู่ในวงศ์ ANACARDIACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 5-10 เมตร ใบออกตรงกันข้ามรูปรีแกมรูปไข่กลับ ปลายและโคนใบแหลม เนื้อใบค่อนข้างหนาและแข็ง สีเขียวสดเป็นมัน ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกเป็นสีขาวหรือสีขาวนวล “ผล” รูปไข่ค่อนข้างยาวและรี ผลโตเต็มที่ประมาณไข่เป็ด มีน้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 10-15 ผลต่อ 1 กิโลกรัม ผลสุกเป็นสีเหลือง เนื้อในเยอะ เนื่องจากเมล็ดเล็ก เนื้อสุกเป็นสีเหลืองอมส้ม รสชาติหวานปนเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่มีเสี้ยนและไม่มียางขม รับประทานอร่อยมาก สามารถเก็บผลได้หลายวันโดยผลไม่ช้ำหรือเละแต่อย่างใด ติดผลดกปีละครั้งตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด

มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ โครงการ 11 แผง “คุณหมู” โทร.08-1861-6644 ราคาสอบถามกันเอง ปลูกเก็บผลกินในครัวเรือนหรือเก็บผลขายคุ้มค่ามาก การปลูก รดน้ำพอชุ่มวันละครั้ง บำรุงปุ๋ย 16-16-16 สลับกับโรยขี้วัวขี้ควายแห้งเดือนละครั้ง เมื่อต้นติดผลโตเท่าปลายนิ้วหัวแม่มือผู้ใหญ่ ใส่ปุ๋ย 13-13-21 พร้อมฉีดสารสะเดาป้องกันแมลง หลังเก็บเกี่ยวผลแล้วต้องตัดแต่งกิ่งทันที และปฏิบัติเหมือนเดิมตามที่กล่าวข้างต้น จะทำให้ “มะยงชิดท่าอิฐ” ติดผลดกเช่นเดิมครับ.

นายเกษตร

 

“มะม่วงทุเรียน” กับที่มาชื่อมีต้นขาย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 5 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/600820

 

มะม่วงชนิดนี้ มีต้นวางขายมีป้ายชื่อเขียนติดไว้ว่า “มะม่วงทุเรียน” พร้อมมีภาพถ่ายผลจริงโชว์ให้ชมด้วย ซึ่งมะม่วงดังกล่าวเป็นพันธุ์ไทยโบราณที่นิยมปลูกเฉพาะถิ่นในแถบจังหวัดภาคกลางไม่กี่จังหวัดมาช้านานแล้ว เพื่อเก็บผลกินในครัวเรือนเท่านั้น ไม่แพร่หลายเหมือนกับมะม่วงดังในปัจจุบัน จึงทำให้เป็นมะม่วงไทยโบราณสายพันธุ์หนึ่งที่มีผู้ปลูกพากันเสาะหาอย่างกว้างขวางในเวลานี้ เมื่อพบมีต้นวางขายเลยแจ้งให้ทราบทันที

ส่วนที่มาชื่อ “มะม่วงทุเรียน” นั้น ผู้ขายกิ่งตอนบอกว่า เนื่องมาจากเนื้อสุกของมะม่วงดังกล่าว นอกจากจะมีรสหวานแล้ว ยังมีกลิ่นหอมแปลกคล้ายกลิ่นของเนื้อทุเรียนนิดๆอีกด้วย ถือเป็นเรื่องประหลาดมาก จึงถูกตั้งชื่อว่า “มะม่วงทุเรียน” ดังกล่าว และเรียกกันมาจนทุกวันนี้ ผู้ขายกิ่งตอนบอกต่อว่าที่บ้าน จ.ลพบุรีมีปลูกไว้ 1 ต้น กำลังติดผลโตยังไม่ถึงสุก ใครต้องการเดินทางไปชมสอบถามเส้นทางได้

มะม่วงทุเรียน เป็นไม้ยืนต้นสูง 10-15 เมตร ใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่บริเวณปลายยอดใบรูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนมน ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก เป็นสีเหลืองนวล ดอกมีกลิ่นหอม “ผล” รูปกลมรีและอวบอ้วน ผลมีขนาดใหญ่โตเต็มที่ มีน้ำหนักเฉลี่ย 7-8 ขีดต่อผล ผลดิบสีเขียว รสเปรี้ยวจัดปอกเปลือกฝานจิ้มพริกเกลือป่นได้ ผลแก่จัดแต่ยังไม่ถึงสุกรสมันปนหวานกินเป็นมะม่วงมันเฉยๆได้เลย ผลสุกเนื้อเหนียวไม่เละแม้สุกงอม ไม่มีเสี้ยน รสชาติหวานมีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นทุเรียนตามที่กล่าวข้างต้น คนขายกิ่งตอนบอกว่ารับประทานอร่อยมาก ติดผลดกเต็มต้นตามฤดูกาลปีละครั้ง ขยายพันธุ์ทั่วไปด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง และเสียบยอด

มีต้นแท้ที่ขยายพันธุ์ด้วยระบบเสียบยอดขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 17 แผง “นายดาบสมพร” โทร.08-6605-4945 ราคาสอบถามกันเอง เหมาะจะปลูกเก็บผลกินในครัวเรือนหรือเก็บผลขายได้คุ้มค่ามากครับ.

นายเกษตร

 

“ลูกเดือย”แก้คาวปลาสตรี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 4 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/600479

 

หญิง โสดและไม่โสดมักจะมีอาการตกขาวกันเยอะ เป็นแล้วทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงปรารถนาและทำให้กลุ้มใจมากต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางรักษาประจำ ซึ่งถ้าหากไม่ได้เกิดอาการตกขาวเพราะติดเชื้อ ในทางสมุนไพรให้เอา “ลูกเดือย” ครึ่งกิโลกรัมต้มกับน้ำ 2 ลิตรจน “ลูกเดือย” สุกแล้วเอาเฉพาะน้ำกินครั้งละ 1 แก้ว ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เช้ากลางวันเย็น กินจนยาจืดจึงใช้ “ลูกเดือย” ใหม่ต้มกินต่อเหมือนวิธีแรกจะสังเกตได้ว่าอาการตกขาวจะค่อยๆดีขึ้นหรือแห้งหายได้ในที่สุด เมื่อหายแล้วหยุดต้มกินได้ ไม่มีอันตรายอะไร

ลูกเดือย หรือ COIX LACHYMA JOBI LINN. อยู่ในวงศ์ GRAMINEAE มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหารสูง เหมาะสำหรับเป็นอาหารเสริมที่อุดมด้วยธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ช่วยในการรักษาโรคบวมน้ำ โรคแน่นหน้าอก กล้ามเนื้อตึงและปวดเส้นประสาทได้ดีระดับหนึ่ง

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” ไม่วางขายที่ไหนหมดแล้วหมดเลย ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ปณ.48 ปณ.สามแยกลาดพร้าว กทม. 10901 หรือสอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร โลชั่นบำรุงผิว มีส่วนผสมของกวาวเครือขาวด้วย, ข่อยสีฟัน เป็นผงไม่มีฟอง รักษาเหงือกฟันแข็งแรง, ข่อยขัดรักแร้ ดับกลิ่นเต่ารักษารักแร้ดำคล้ำ, น้ำมันงาบริสุทธิ์ ทาผิวป้องกันผิวแห้งหมักผมดีมาก, ครีมโลดทะนง รักษาสิวฝ้ารูขุมขนตีบลง, น้ำมัน 12 ประดง ทาภายนอกฆ่าเชื้อสมานแผล แก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน แพ้เหงื่อ, ยาริดสีดวงจมูกแคปซูล แก้น้ำมูกมีกลิ่นเหม็น, เพชรสังฆาตแคปซูล แก้ริดสีดวงทวาร, คอลลาเจนบริสุทธิ์ เป็นผงทาหน้าช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, ยาต้มคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อย แก้เกาต์ ลดเบาหวาน, ตรีผลาแคปซูล ลดไขมันในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์, ดีบัวแคปซูล ขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองหัวใจ, ยาบำรุงไตแคปซูลไม่ใช่รักษาไต, ยาลดเบาหวานแคปซูลและอื่นๆโทร. 0–2275–2692 ครับ.

“นายเกษตร”

 

“พริกไทยซีลอนพุ่มเตี้ย” ปลูกกระถางผลดกคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 1 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/598921

 

ปัจจุบัน การปลูกพืชครัวกำลังเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ในสังคมคนเมือง โดยส่วนใหญ่จะนิยมปลูกลงกระถางเพื่อเก็บใช้ประโยชน์ได้ง่ายๆ และ “พริกไทยซีลอนพุ่มเตี้ย” จัดเป็นพืชครัวชนิดหนึ่งที่ผู้ปลูกชอบปลูกกันมาก เนื่องจากปลูกแล้วใช้นํ้าน้อย สามารถปลูกลงกระถางตั้งในที่มีแสงแดดส่องถึงทั้งวัน มีดอกและติดผลดก เก็บผลสดรับประทานได้แบบง่ายๆ ไม่ต้องควักเงินไปซื้อเขากินให้เปลืองสตางค์และคุ้มค่ามาก นั่นเอง

พริกไทยซีลอนพุ่มเตี้ย เกิดจากการพัฒนาพันธุ์จากพริกไทยซีลอนดั้งเดิมที่เป็นไม้เถาเลื้อยจนได้กลายพันธุ์เป็นพริกไทยใหม่ มีลักษณะแตกต่างจากพริกไทยซีลอนดั้งเดิมอย่างชัดเจนคือ ได้กลายเป็นไม้พุ่มเตี้ย ไม่เป็นไม้เถาเลื้อยเหมือนลักษณะทางพฤกษศาสตร์เดิม ที่สำคัญจะมีดอกและติดผลดกแบบไม่ขาดต้นเกือบตลอดทั้งปีอีกด้วย จึงถูกตั้งชื่อว่า “พริกไทยซีลอนพุ่มเตี้ย” ดังกล่าว

พริกไทยซีลอนพุ่มเตี้ย หรือ PEPPER PIPER NIGRUM LINN. อยู่ในวงศ์ PIPER-ACEAE เป็นไม้พุ่ม สูงไม่เกิน 1 เมตร ลำต้นเป็นข้อโป่งนูน มีรากฝอยตามข้อ ใบออกเรียงสลับรูปรีแกมรูปใบหอก ปลายแหลม โคนมน ดอก เป็นดอกแยกเพศ ออกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกสีขาวแกมเขียว “ผล” รูปทรงกลม เรียงตัวแน่นตามแกนช่อจำนวนมาก ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกเป็นสีแดงหรือคลํ้า รสเผ็ดร้อนมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมเอาผลสดหรือแห้งปรุงอาหารหลากหลายอย่างทั่วโลก เป็นเครื่องเทศ เป็นสมุนไพร และมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตมนุษย์อย่างมาก มีดอกติดผลเกือบทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำต้น

ใคร ต้องการต้นแท้ ติดต่อ “คุณประภาส สุภาผล” 33/4 หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร. 08-8533-2299 ราคาสอบถามกันเอง สามารถปลูกลงกระถางมีดอกและติดผลดกได้เหมือนกับการปลูกลงดินทุกอย่าง ต่างจังหวัดผู้ขายจัดส่งทางไปรษณีย์ได้ด้วยครับ.

“นายเกษตร”