“ส้มโอพลอยชมพู” กับที่มาพันธุ์เนื้อดีอร่อย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/565359

โดย นายเกษตร 21 ม.ค. 2559 05:01

 

ส้มโอชนิดนี้ มีที่มาของสายพันธุ์คือ อ.บุญเกื้อ ชมฉ่ำ เจ้าของ “สวนบางไผ่พันธุ์ไม้” ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ได้รับผลส้มโอพันธุ์หนึ่งจำนวน 2-3 ผล จากเพื่อนนักธุรกิจที่เพิ่งจะกลับจากการเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศมาเลเซียซื้อมาฝากให้ และเห็นว่ารูปทรงของผลส้มโอที่ได้รับแปลกกว่าผลส้มโอทั่วไป เนื้อในเป็นสีชมพูสวยงามน่าชมมาก เนื้อมีรสชาติหวานกรอบ รับประทานอร่อยยิ่งนัก จึงนำเอาขั้วที่มีก้านติดมากับผลยังไม่แห้งไปเสียบกับตอส้มโอพันธุ์พื้นเมืองของไทยจนติดราก แล้วแยกไปปลูกเลี้ยงอยู่เป็นเวลานานหลายปีจนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่าสามารถติดผลได้ง่ายให้ผลผลิตดกเต็มต้น ผลมีขนาดใหญ่ รูปทรงของผลกลมแป้น เปลือกผลบาง ให้เนื้อเยอะเป็นสีชมพูเข้ม รสหวานกรอบ ไม่มีเมล็ด รับประทานอร่อยไม่แพ้ส้มโอสายพันธุ์ดังๆทั่วไป จึงตั้งชื่อว่า “ส้มโอพลอยชมพู” ตามสีของเนื้อดังกล่าว

ส้มโอพลอยชมพู มีชื่อวิทยาศาสตร์และมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับส้มโอทั่วไปทุกอย่างคือ เป็นไม้ยืนต้น สูง 5-10 เมตร กิ่งก้านมีขน มักมีหนามแหลม ใบเป็นใบประกอบขนนกชนิดมีใบย่อยใบเดียว ออกเรียงสลับ ใบย่อยรูปวงรีหรือรูปไข่กลับ ก้านใบแผ่เป็นปีกคล้ายแผ่นใบ ดอก ออกเป็นช่อกระจายตามซอกใบและปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกเป็นสีขาวมีกลิ่นหอม “ผล” รูปทรงกลมแป้นอย่างชัดเจน เปลือกผลเกลี้ยงและบางเป็นสีเขียวแกมเหลือง เนื้อในเป็นถุงนํ้าสีชมพูเข้ม ไม่มีเมล็ด รสชาติหวานกรอบไม่เละอร่อยมาก ติดผลดกปีละครั้งตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ด้วยการเสียบยอด

ใคร ต้องการต้นพันธุ์ของแท้ ติดต่อ “สวนบางไผ่พันธุ์ไม้” โทร.08-6569-6225, 08-4656-1174 หรือไปซื้อได้ที่งานเกษตรแฟร์ ม.เกษตรฯ บางเขน กทม. บริเวณโซนบี 161 โซนบี 249 ทางเข้าประตู 3 ด้านถนนงามวงศ์วาน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ม.ค.-6 ก.พ.59 ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเก็บผลกินในครัวเรือนและเก็บผลขายคุ้มค่ามากครับ.

“นายเกษตร”

“ขนุนเพชรจริยา” ดกทั้งปีหวานกรอบ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/564883

โดย นายเกษตร 20 ม.ค. 2559 05:01

 

ขนุน เป็นไม้ผลที่ได้รับความนิยมจากผู้ปลูกอย่างกว้างขวางไม่แพ้ไม้ผลชนิดอื่นๆ ซึ่ง “ขนุนเพชรจริยา” เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างขนุนดังคือ ขนุนเพชรดำรง กับ ขนุนศรีบรรจง แต่ไม่เปิดเผยว่าผสมกันด้วยวิธีไหน จากนั้นก็นำต้นพันธุ์ไปปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่าติดผลดกไม่ขาดต้นหรือตลอดทั้งปี เมื่อผลสุกตัดลงจากต้นผ่าเอาเนื้อในกลับมียางน้อยมาก เนื้อสุกเป็นสีเหลืองเข้มหรือสีเหลืองทอง เนื้อมีความหนาประมาณ 0.8-1.5 ซม. รสชาติหวานกรอบไม่เละแม้สุกงอม มีกลิ่นหอมแปลกคล้ายกลิ่นดอกลำดวน วัดความหวานได้ประมาณ 22-28 องศาบริกซ์ เมล็ดและไส้กลางเล็กรับประทานอร่อยมาก นํ้าหนัก

ผลโตเต็มที่ระหว่าง 10-15 กิโลกรัมต่อผล เนื้อสุกประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์ของนํ้าหนักผล ติดผลดกตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์โดยทั่วไปด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง

เจ้าของ ผู้ผสมพันธุ์มั่นใจว่าเป็นขนุนใหม่และได้ขยายพันธุ์ปลูกทดสอบความนิ่งของสายพันธุ์อยู่หลายวิธีและเป็นเวลานานทุกอย่างยังคงที่ จึงตั้งชื่อว่า “ขนุนเพชรจริยา” พร้อมจด ทะเบียนชื่อได้รับการรับรองพันธุ์

จากกรมวิชาการเกษตรถูกต้องตามกฎหมาย และขยายพันธุ์ตอนกิ่งด้วยระบบทาบกิ่งออกวางขายได้รับความนิยมจากผู้ซื้อไปปลูกอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ขนุนเพชรจริยา มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับขนุนทั่วไป

ทุกอย่าง จะแตกต่างกันคือ สามารถติดผลดกเต็มต้นตลอดทั้งปี เนื้อสุกหนามาก รสชาติหวานกรอบหอมรับประทานอร่อยยิ่งนัก เนื้อเยอะเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของนํ้าหนักผลตามที่กล่าวข้างต้น

ใคร ต้องการกิ่งตอนของแท้ ติดต่อ “สวนณัฐพนธ์ฟาร์ม” 48/4 หมู่ 7 ต.โคกไม้ลาย อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โทร. 08-6347-9749, 08-6383-3061 หรือที่งานเกษตรแฟร์ ม.เกษตรฯ บางเขน กทม. บริเวณล็อกบี 87-88, บี 195-196, บี 261-262 และบี 327-328 จัดขึ้น

ระหว่างวันที่ 29 ม.ค.-6 ก.พ.59 ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“มะนาวแป้นดกศรีนวล” กับที่มาพันธุ์ผลโตน้ำเยอะ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/564244

โดย นายเกษตร 19 ม.ค. 2559 05:01

 

มะนาวชนิดนี้ มีที่มาของสายพันธุ์คือเป็น มะนาวที่เกิดจากการเอาเมล็ดของมะนาวดังสายพันธุ์ หนึ่ง แต่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรจำนวนเกือบร้อยเมล็ดไปเพาะเป็นต้นกล้า แล้วแยกต้นปลูกลงดินและปลูกบ่อซีเมนต์จนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่ามีอยู่หลายต้นติดผลดกมากแบบเต็มต้นตามฤดูกาล ขนาดของผลใหญ่ รูปทรงผลสวย เป็นรูปกลมรีเล็กน้อย เปลือกผลบาง ผ่าครึ่งบีบหรือคั้นเอาน้ำให้น้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัดและมีกลิ่นหอมแรงเฉพาะตัว สีของเปลือกผลเป็นสีเขียวอมเหลืองโดยธรรมชาติ ใน 1 ผล จะมีเมล็ด 1-2 เมล็ดเท่านั้น ซึ่งบางผลไม่มีเมล็ดเลย “คุณพเยาว์ ธรรมรัตน์” อดีตข้าราชการบำนาญผู้คนพบมะนาวดังกล่าว เชื่อว่าเป็นมะนาวพันธุ์ใหม่ เลยขยายพันธุ์ปลูกทดสอบความนิ่งของสายพันธุ์อยู่หลายวิธีและเป็นเวลานาน ทุกอย่างยังคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง ได้กลายพันธุ์แบบถาวรแล้ว จึงตั้งชื่อว่า “มะนาวแป้นดกศรีนวล” พร้อมขยายพันธุ์ตอนกิ่งออกวางขายได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเวลานี้

มะนาวแป้นดกศรีนวล มีชื่อวิทยาศาสตร์และมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับมะนาวทั่วไปทุกอย่างคือ เป็นไม้พุ่มต้น สูง 2-4 เมตร กิ่งอ่อนมีหนามแหลม ใบเป็นใบประกอบชนิดมีใบย่อยใบเดียว เป็นรูปไข่แกมรูปขอบขนาน สีเขียวสด ผิวใบมีต่อมน้ำมันหอมระเหยกระจายทั่ว ดอก ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายยอด กลีบดอกเป็นสีขาว มีกลิ่นหอมแบบสะอาด “ผล” รูปกลมรีเล็กน้อย ผิวผลเกลี้ยง เนื้อในฉ่ำน้ำ เปลือกผลบาง ผ่าบีบหรือคั้นน้ำให้น้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัด มีกลิ่นหอมแรงตามที่กล่าวข้างต้น ติดผลดกเต็มต้นตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง เหมาะจะปลูกเก็บผลใช้ประโยชน์ในครัวเรือนหรือปลูกเก็บผลขายดีมาก

ใคร ต้องการต้นพันธุ์ที่เป็นพันธุ์แท้ ติดต่อ “สวนเกษตรศรีนวล” 47/1 หมู่ 7 ต.ไม้เด็ด อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โทร. 08–1143–0289, 08–9939–8951 หรือที่งานเกษตรภาคอีสาน จัดขึ้นที่ ม.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 22 ม.ค.-2 ก.พ.59 และงานเกษตรประจำปีจังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 4-14 ก.พ.59 ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“มะนาวแป้นพันธุ์ใหม่” ทนโรคดีดกทั้งปีไร้เมล็ด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/562584

โดย นายเกษตร 15 ม.ค. 2559 05:01

 

ในช่วง ฤดูแล้งทุกปีมะนาวจะมีราคาแพงมาก เนื่องจากต้นมะนาวจะให้ผลผลิตน้อยหรือบางพันธุ์ไม่ติดผลเลย จึงทำให้มีการพัฒนามะนาวพันธุ์ใหม่ๆที่สามารถให้ผลผลิตแบบต่อเนื่อง แม้ในช่วงฤดูแล้งขึ้นมาอย่างแพร่หลาย และ “มะนาวแป้นพันธุ์ใหม่” ก็เป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เกิดจากการผสมเกสรระหว่าง มะนาวแป้นพิจิตร 1 กับมะนาวแม่ลูกดก โดย อ.วัง สุขประเสริฐ จากนั้นก็เอาเมล็ดจากผลที่ได้หลายร้อยเมล็ดไปเพาะเป็นต้นกล้าแยกปลูกในบ่อซีเมนต์จนต้นมีอายุได้ 3-4 เดือนจึงฉีดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคแคงเกอร์ใส่ต้นโดยตรงเพื่อทดสอบการทนต่อโรคดังกล่าว ปรากฏว่ามีหลายต้นสามารถทนได้ดีและต้นโตมีดอกติดผลดกไม่ขาดต้นตลอดทั้งปี ผลมีขนาดใหญ่ เปลือกผลบาง ให้นํ้าเยอะ นํ้ามีกลิ่นหอมและไม่มีเมล็ด จึงตั้งชื่อว่า “มะนาวแป้นพันธุ์ใหม่” พร้อมคัดเอาต้นดีที่สุดอีกจำนวนหนึ่ง และขยายพันธุ์วางขายทั่วไป ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อไปปลูกอย่างแพร่หลายอยู่ในเวลานี้

มะนาวแป้นพันธุ์ใหม่ มีลักษณะทางพฤกษ-ศาสตร์เหมือนกับมะนาวทั่วไป คือ เป็นไม้พุ่มยืนต้น สูง 2-4 เมตร ใบเป็นใบประกอบชนิดมีใบย่อยเพียงใบเดียว ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายยอด สีของดอกจะแตกต่างจากสีของดอกมะนาวทั่วไปอย่างชัดเจน คือ สีดอกจะเป็นสีขาวอมม่วง ดอกมีกลิ่นหอมเย็น “ผล” รูปกลมแป้น ผลมีขนาดใหญ่ ไม่มีเมล็ด ติดผลดกเต็มต้น ผลจะติดอยู่บนต้นได้นานถึง 3-4 เดือน โดยที่สีของผลจะไม่เหลืองหรือผลหล่นจากต้นเลย ทนต่อโรคแคงเกอร์ได้ดีตามที่กล่าวข้างต้น ผู้ปลูกไม่ต้องฉีดยาป้องกันแมลงให้เสียสุขภาพ ติดผลดกทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งและเสียบยอด เหมาะจะปลูกใช้ประโยชน์ในครัวเรือนและปลูกเก็บผลขายเป็นเชิงพาณิชย์คุ้มค่ามาก

ใคร ต้องการต้นพันธุ์แท้ ติดต่อ “สวนอัฐ มะนาวนิ้ว” โทร.08-6347-9749, 08-6383-3061 และที่งานเกษตรแฟร์ ม.เกษตรฯ บางเขน กทม. ล็อก บี 87-88, บี 195-196, บี 261-262 และ บี 327-328 วันที่ 29 ม.ค.-6 ก.พ.59 ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“ลาเวนเดอร์” กับประโยชน์น่ารู้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/561987

โดย นายเกษตร 14 ม.ค. 2559 05:01

 

ไม้ต้นนี้ เป็นพืชพื้นเมืองในแถบเมดิเตอร์เรเนียนแล้วกระจายปลูกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส บัลแกเรีย อังกฤษ และเขตร้อนทั่วโลก ทุกส่วนของต้น “ลาเวนเดอร์” ไม่ว่าจะเป็นต้นกิ่งก้านใบและดอกจะมีกลิ่นหอมแรงแบบเฉพาะตัว จึงถูกนำไปสกัดเป็นสารระเหยแปรรูปเป็นนํ้าหอมกลิ่น “ลาเวนเดอร์” และเครื่องหอมชนิดต่างๆ ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก

นอกจากนั้น ยังเชื่อกันว่ากลิ่นหอมของต้น “ลาเวนเดอร์” มีคุณสมบัติช่วยในการบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ลดอาการอักเสบ ปวดประสาท รักษาแผลไฟไหม้นํ้าร้อนลวกให้หายเร็วขึ้นและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย ในต่างประเทศนิยมหักเอากิ่งจากต้น “ลาเวนเดอร์” 2-3 กิ่ง มัดรวมกันเป็นกำๆ ฟาดกับพื้นเบาๆ พอให้กลิ่นหอมกระจายออกเพื่อใช้ไล่แมลงหรือยุงที่รบกวนได้ดีมาก ต้นใบและดอกนำไปตากแห้งหรืออบแห้งตามกรรมวิธีผลิต เป็นชาชงกับนํ้าร้อนดื่มสร้างกลิ่นหอม ช่วยให้ผู้ดื่มรู้สึกผ่อนคลายดียิ่งนัก

อย่างไรก็ตาม คนที่มีอาการแพ้กลิ่นหอมจากเกสรดอกไม้ทุกชนิดต้องหลีกเลี่ยง เนื่องจากกลิ่นหอมของต้น “ลาเวนเดอร์” มีความเข้มข้นสูง โดยเฉพาะคนเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และสตรีมีครรภ์ เป็นต้น

ลาเวนเดอร์ LAVENDULA ANGUSTIFOLIA MILL หรือ LAVENDULA OFFICINALIS อยู่ในวงศ์ RABIATAE, LAMIACEAE เป็นพืชล้มลุกอายุหลายปี สูง 1-1.5 ฟุต ใบเดี่ยวออกตรงกันข้ามรูปรี ปลายแหลม โคนสอบ ขอบหยักลึก ใบมีกลิ่นหอมแรง ดอกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกขนาดเล็กสีม่วง “ผล” ทรงกลม ผลขนาดเล็กมีเมล็ด ในต่างประเทศ นิยมปลูกในทุ่งกว้าง เรียกว่าทุ่ง “ลาเวนเดอร์” มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 2 แผง “ป้าแอ๊ด-คุณขวัญ” ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“ละมุดยักษ์สาลี่” ทูอินวันหวานกรอบ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/561503

โดย นายเกษตร 13 ม.ค. 2559 05:01

 

ละมุดชนิดนี้ มีที่มาของสายพันธุ์โดยเกษตรกรชาวเวียดนามได้นำเอาเมล็ดของละมุดฝรั่งสายพันธุ์ดีพันธุ์หนึ่งไปเพาะเป็นต้นกล้าจำนวนมาก แล้วนำเอาต้นไปปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกติดผลและขยายพันธุ์ด้วยวิธีต่างๆต่ออีกหลายวิธี เพื่อเปลี่ยนแปลงพันธุ์ตั้งแต่ตอนกิ่งโดยตรง ทาบกิ่งและเสียบยอดกับตอละมุดพื้นเมือง นำต้นปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผลอีกครั้งจน กลายเป็นละมุดพันธุ์ใหม่อย่างถาวร มีลักษณะผลแตกต่างจากผลของละมุดพันธุ์เดิมอย่างชัดเจน คือ ผลจะมี 2 ลักษณะ ได้แก่ ผลกลมแป้นเล็กน้อยกับผลกลมรียาว และขนาดของผลจะใหญ่ขึ้น รสชาติหวานกรอบ เนื้อไม่เละแม้สุกเต็มที่ รับประทานอร่อยมาก จากนั้นเกษตรกรชาวไทยได้ซื้อพันธุ์นำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ขายในบ้านเรานานแล้ว ในชื่อ “ละมุดยักษ์สาลี่” ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อไปปลูกเพื่อรับประทานในครัวเรือน และปลูกเพื่อเก็บผลขายได้คุ้มค่าอย่างแพร่หลายเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน

ละมุดยักษ์สาลี่ หรือที่นิยมเรียกกันอีกชื่อว่า ละมุดเวียดนาม อยู่ในวงศ์เดียวกับละมุดทั่วไปคือ SAPOTACEAE มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้ยืนต้น สูง 3-5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่บริเวณปลายกิ่ง ปลายใบแหลม โคนมน ดอก ออกเป็นช่อกระจุกที่ซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกมีขนาดเล็กสีขาวนวล มีกลีบดอก 5 กลีบ “ผล” มี 2 รูปแบบคือ ทรงกลมแป้นเล็กน้อยและกลมรียาว ผลมีขนาดใหญ่โตเต็มที่ มีนํ้าหนักเฉลี่ยระหว่าง 3 ผลต่อ 1 กิโลกรัมตามที่กล่าวข้างต้น ซึ่งบางครั้งในต้นเดียวสามารถติดผลได้ 2 ลักษณะ ทั้งแบบผลกลมแป้นและกลมรียาว เรียกว่า “ทูอินวัน” เป็นเรื่องแปลกมาก รสชาติหวานกรอบ เนื้อไม่เละ รับประทานอร่อยยิ่งนัก ใน 1 ผลจะมีเมล็ด 3-5 เมล็ดเท่านั้น มีดอกและติดผลเกือบทั้งปี เวลาติดผลจะดกเต็มต้นน่าชมมาก ขยายพันธุ์โดยทั่วไปด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด

ใคร ต้องการกิ่งตอนที่เป็นพันธุ์แท้ติดต่อ “คุณวิเชียร บุญเกิด” เกษตรกรดีเด่นด้านพืชสวนประจำปี 54 ของจังหวัดกำแพงเพชร ที่บ้านเลขที่ 161/2 หมู่ 1 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โทร.08-5244-1699 ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“มะขามป้อมสิริมงคล” กับที่มาพันธุ์ใหญ่ดกทั้งปี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/561009

โดย นายเกษตร 12 ม.ค. 2559 05:01

 

มะขามป้อมชนิดนี้ เกิดจากการผสมเกสรโดยธรรมชาติ ระหว่างมะขามป้อมพื้นเมืองของไทยกับมะขามป้อมยักษ์จากประเทศอินเดีย แล้วเอาเมล็ดไปเพาะเป็นต้นกล้าจำนวนหลายเมล็ด แล้วนำต้นไปปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผล จากนั้นก็ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งโดยตรง ทาบกิ่ง และเสียบยอด นำต้นไปปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผลอีกทอดหนึ่ง ปรากฏว่ามีอยู่หลายต้นมีขนาดของต้นแตกต่างไปจากต้นพ่อและแม่คือ ปลูกในกระถางขนาดใหญ่หรือปลูกในบ่อซีเมนต์ต้นจะสูง 2-3 เมตร สามารถมีดอกและติดผลดกเต็มต้น หลังปลูกเพียง 2 ปีแค่นั้น

ที่สำคัญ คือขนาดของผลจะมีขนาดใหญ่ นํ้าหนักเฉลี่ยระหว่าง 18 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม ซึ่งถ้าหากเป็นผลของมะขามป้อมสายพันธุ์พื้นเมืองทั่วไป จะต้อง 30 ผลขึ้นไปจึงจะมีนํ้าหนักได้ 1 กิโลกรัม ผลอ่อนเป็นสีเขียวใส เมื่อแก่จะเป็นสีเหลืองทอง เมล็ดเล็ก ฉ่ำนํ้า ติดผลดกเต็มต้น รสชาติดี เหมือนกับผลมะขามป้อมทั่วไปทุกอย่าง เจ้าของผู้พัฒนาพันธุ์มั่นใจว่าเป็นมะขามป้อมพันธุ์ใหม่ จึงตั้งชื่อว่า “มะขามป้อมสิริมงคล” ดังกล่าว

มะขามป้อมสิริมงคล หรือ AMBLIC-MYROBALAN PHYL-LANTHUS AMBLIC LINN. อยู่ในวงศ์ EUPHORBIACEAE ต้นปลูกลงดินสูงเต็มที่ไม่เกิน 3-5 เมตร (ปกติต้นมะขามป้อมพันธุ์พื้นเมืองจะสูง 10-15 เมตร) ติดผลดกเต็มต้นตลอดทั้งปี ผลมีขนาดใหญ่ตามที่กล่าวข้างต้น ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

ใคร ต้องการต้นที่เป็นพันธุ์แท้ติดต่อ “สวนณัฐพนธ์ฟาร์ม” โทร. 08-6383-3061, 08-6347-9749 หรือที่งานเกษตรแฟร์ ม.เกษตรฯ บางเขน กทม. บริเวณล็อก บี 87-88, บี 195-196, บี 261-262 และ บี 327-328 วันที่ 29 ม.ค.-6 ก.พ.59 เป็นกิ่งตอนด้วยระบบเสียบยอด มีรากแก้วดีทุกต้น ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลรับประทานในครัวเรือนและปลูกเพื่อเก็บผลขายราคากิโลกรัมหลายบาท ราคาของต้นสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“กระเทียม” แก้แผลสด เลือดไม่หยุด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/560621

โดย นายเกษตร 11 ม.ค. 2559 05:01

 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย รู้ไว้ประเทืองปัญญา สามารถนำไปใช้ก่อนพบแพทย์ให้รักษา ซึ่งหากใครเกิดอุบัติเหตุถูกของมีคมหรือเป็นแผลสดเลือดไหลไม่หยุดให้เอา “กระเทียม” สดปอกเปลือกล้างน้ำให้สะอาด ใช้มีดฝานเป็นแว่นบางๆ นำไปปิดทับแผลให้เต็มแล้วใช้ผ้าสะอาดพันไว้ ไม่นานเลือดจะหยุดได้ จากนั้นก็เอาออกไม่อันตรายอะไร นิยมใช้กันมาแต่โบราณแล้ว

กระเทียม หรือ ALLIUM SATIVUM LINN. อยู่ในวงศ์ ALLIACEAE ในงานวิจัยพบว่า “กระเทียม” มีบทบาทลดไขมันในเส้นเลือด รักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันเลือดจับตัวเป็นลิ่ม รักษาโรคความดันโลหิตสูง สาร “อัลลิซิน” มีแนวโน้มทำให้ระดับของ “คอเลสเทอรอล” ในเลือดลดลงด้วย ใบสดของ “กระเทียม” มีสารจำพวกวิตามินเกลือแร่ต่างๆเยอะ ที่โดดเด่นคือเบต้าแคโรทีน

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” พิมพ์จำกัดหมดแล้วหมดเลย ไม่วางขายที่ไหน ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ปณ.48 ปณ.สามแยกลาดพร้าว กทม. 10901 หรือสอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร กระเทียมโทนแคปซูล ผสมสมุนไพรหลายอย่างแก้หอบหืด แก้ถุงลมโป่งพอง, ว่านชักมดลูกแคปซูล ช่วยให้มดลูกกระชับ แก้คาวปลา ดับกลิ่นเหม็นในสตรี แก้ต่อมลูกหมากอักเสบไส้เลื่อนในบุรุษ, เพชรสังฆาตแคปซูล แก้ริดสีดวงทวาร, ยาลดเบาหวานแคปซูล ทำจากสมุนไพรกว่า 5 ชนิด, น้ำมัน 12 ประดง ใช้ภายนอกห้ามกิน ฆ่าเชื้อสมานแผล แก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน ชันนะตุ แพ้เหงื่อ, ยาแก้ริดสีดวงจมูกแคปซูล ทำจากสมุนไพรหลายชนิด, ครีมโลดทนง รักษาสิวฝ้า รูขุมขนตีบลง, ยาต้มคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อย แก้เกาต์ ลดเบาหวาน, คอลลาเจนบริสุทธิ์เป็นผงทาหน้า ช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, ตรีผลาแคปซูล ลดไขมันในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์, ดีบัวแคปซูล ช่วยขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองหัวใจ, แห้วหมูแคปซูล ผสมสมุนไพรหลายอย่าง ลดความดันโลหิต และอื่นๆ โทร. 0–2275–2692 ครับ.

“นายเกษตร”

“ขนุนแดงสุริยา” หวาน กรอบอร่อยปลูกคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/559321

โดย นายเกษตร 8 ม.ค. 2559 05:01

 

ขนุนชนิดนี้ เป็นสุดยอดของ ขนุนเนื้อสีจำปาสายพันธุ์แท้ ที่มีการปลูกทดสอบพันธุ์อยู่นานกว่า 10 ปีแล้ว เป็นขนุนที่มีความทนทานต่อโรคพันธุ์ไม้ได้ดีและทนความแห้งแล้งด้วย เป็นขนุนพันธุ์เบา มีดอกติดผลได้ง่ายและติดผลดกอย่างสม่ำเสมอ ผลโตเต็มที่มีนํ้าหนัก 8-20 กิโลกรัมต่อผล สามารถติดผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เนื้อผลมีความหนาประมาณ 0.5-1.2 ซม. สีของเนื้อสวยเป็นสีแดงเข้มจึงถูกตั้งชื่อว่า “ขนุนแดงสุริยา” รสชาติหวานกรอบไม่เละมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รับประทานอร่อยมาก ให้เนื้อเยอะมากกว่า 52 เปอร์เซ็นต์ของนํ้าหนักผล เมื่อผลแก่จัดจะไม่แตกอ้า มีรางวัลชนะเลิศงานประกวดขนุนจำปาวันเกษตรประจำปีของ จ.ปราจีนบุรี มาถึง 4 ปีซ้อน กำลังเป็นที่นิยมปลูกเพื่อเก็บผลกินในครัวเรือนและปลูกเพื่อเก็บผลแกะเนื้อขายอย่างแพร่หลายในปัจจุบันคุ้มค่ามาก ราคากิโลกรัมละหลายบาท

ขนุนแดงสุริยา หรือ ARTOCARPUS HETEROPHYLLUS LAMK. อยู่ในวงศ์ MO-RACEAE มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับต้นขนุนทั่วไปทุกอย่าง ติดผลได้ปีละ 2 ครั้ง ตามที่กล่าวข้างต้น ขยายพันธุ์ด้วยระบบเสียบยอดกับตอขนุนพื้นเมือง การปลูกระหว่างต้น และระหว่างแถวห่างกัน 6×6 เมตร ขุดหลุมลึกและกว้างประมาณ 60×60 ซม. ใส่ปุ๋ยคอกผสมกับดินที่ขุดขึ้นมาให้เต็มหลุม จากนั้นนำเอาต้น “ขนุนแดงสุริยา” ลงปลูกให้ดินปากถุงเสมอกับหน้าดิน อย่าปลูกลึกเพราะจะทำให้ต้นเจริญเติบโตได้ช้า รดนํ้า 1-2 วันครั้ง ใส่ปุ๋ยคอกทุกๆ 3 เดือน สลับกับการใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ทุกๆ 2 เดือน จะทำให้ “ขนุนแดงสุริยา” ติดผลชุดแรกหลังปลูกเพียง 3 ปีเท่านั้น

ใคร ต้องการ “ขนุนแดงสุริยา” พันธุ์แท้ติดต่อตรง “คุณประภาส สุภาผล” 33/4 หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร.08-8533-2299 หรือไปซื้อที่งานไทยแลนด์เมก้าโชว์ อิมแพค เมืองทองธานี บริเวณ ฮอลล์ 5 บูธ “สวนประภาสไม้ผล” ระหว่างวันที่ 9-17 ม.ค.59 ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”

“งิ้ว” เกสรอร่อยสรรพคุณดี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/558714

โดย นายเกษตร 7 ม.ค. 2559 05:01

 

งิ้ว พบขึ้นตามป่าเบญจพรรณทั่วไปในประเทศไทย พบมากที่สุดทางภาคเหนือ ชาวเหนือรู้จัก “งิ้ว” เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมีขึ้นเองตามป่าธรรมชาติแล้วยังนิยมปลูกไว้ในบริเวณบ้านกันอย่างแพร่หลายมาแต่โบราณเพื่อใช้ประโยชน์เป็นอาหาร คือ เกสรตัวผู้จากดอกของ “งิ้ว” นำไปตากแห้งโรยในขนมจีนนํ้าเงี้ยวหรือปรุงเป็นแกงแครับประทานอร่อยมาก ซึ่งอาหารทั้ง 2 อย่างจะขาดเกสรของดอก “งิ้ว” ไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ในทางสมุนไพร และการใช้ประโยชน์อื่นๆ ราก นำไปต้มกับนํ้าจนเดือดดื่มเป็นยาทำให้อาเจียนเพื่อขับและถอนพิษต่างๆออกจากร่างกาย เปลือกต้น ใช้ทำเชือก ยาง จากต้นแก้ท้องร่วงได้ เนื้อไม้ทำฟืน ทำฝาบ้าน หีบใส่ของ ผลิตเป็นของเล่นเด็กๆแบบยุคโบราณหลายอย่าง ซึ่งในยุคปัจจุบันไม่พบเห็นอีกแล้ว ทำก้านไม้ขีด กล่องไม้ขีด ไม้จิ้มฟัน ทำไม้อัด เยื่อกระดาษใบแห้งหรือสด ตำทาแก้บวมชํ้าดีมาก ดอกแห้ง ปรุงเป็นยาทาระงับปวดและแก้พิษได้

งิ้ว หรือ BOMBAX CEIBA LINN อยู่ในวงศ์ BOMBACA CEAE มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 10-20 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลม กิ่งแขนงแผ่กางออกเกือบตั้งฉากกับลำต้น ใบเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 5-7 ใบ รูปรี ดอก ออกเป็นช่อกระจุก 3-5 ดอกที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงเป็นรูปถ้วย 3-4 แฉกไม่เท่ากัน กลีบดอก 5 กลีบเป็นสีแดง ปลายกลีบม้วนออก ซึ่งอีกชนิดดอกเป็นสีเหลือง แต่ละดอกมีเกสรตัวผู้เป็นกระจุกติดกันเป็นกลุ่ม และเกสรดังกล่าวนำไปตากแห้งเป็นอาหารตามที่กล่าวข้างต้น “ผล” รูปรี หรือรูปขอบขนานคล้ายผลนุ่น มีเมล็ดสีดำจำนวนมากหุ้มด้วยปุยนุ่นสีขาว ดอกออกเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ทุกปี และจะทิ้งใบก่อนจะมีดอกทุกครั้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด มีชื่อเรียกอีกคือ นุ่นนาง งิ้วแดง ปักมี้ (จีน) งิ้วป่า งิ้วปงแดง และ งิ้วบ้าน มีดอกแห้งขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 24 แผง “คุณหล้า-คุณโอม” ครับ.

“นายเกษตร”