โอกาสทองที่บรูไน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/598324

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 31 มี.ค. 2559 05:01

 

15 ปีที่แล้ว ทีมงานเปิดเลนส์ส่องโลกไปเดินในเขตต่างๆของบรูไน มีคนไทยทักทายเสียงเซ็งแซ่ สมัยนั้น เศรษฐกิจของบรูไนดีมาก เงินจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไหลเข้าประเทศจนใช้ไม่ทัน แรงงานไทยในบรูไนมีประมาณ 30,000 คน

20-24 กุมภาพันธ์ และ 26-28 มีนาคม 2559 พวกเราไปบรูไน กันอีก 2 รอบ พบว่าความเงียบเหงาเข้ามาเกาะกิน ทำให้บรูไนไม่เหมือนก่อน เศรษฐกิจไม่อู้ฟู่หรูหรา เพราะราคาน้ำมันตก บรูไนเป็นประเทศที่เอาไข่ไปใส่ตะกร้าใบเดียว ผมหมายถึงรายได้ส่วนใหญ่ของประเทศมาจากการขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เมื่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติราคาตก ก็กระทบกับเศรษฐกิจอย่างแรง

15 ปีที่แล้ว พวกเราสนทนากับข้าราชการคนสำคัญของประเทศ ท่านก็มีคำตอบเรื่องเมื่อน้ำมันหมด อนาคตของบรูไนจะเป็นอย่างไร รัฐบาลบรูไนมีนโยบายทำให้บรูไนมีเศรษฐกิจหลากหลาย แต่ทว่า นโยบายนั้นนำมาใช้ไม่ทันครับ เพราะน้ำมันราคาตกก่อนที่การพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้ทำอาชีพอย่างอื่น

ไม่ใช่บรูไนเพียงประเทศเดียวดอก แม้แต่เวเนซุเอลาตอนนี้ก็ลำบาก ก่อนหน้าที่จะเจอน้ำมัน คนเวเนซุเอลาปลูกข้าว เลี้ยงปลา ปลูก กาแฟ และโกโก้ โกโก้ของเวเนซุเอลาเคยยิ่งใหญ่ขนาดครองตลาดโลก แต่หลังจากเจอน้ำมัน รัฐบาลของประเทศนี้ก็เอาเศรษฐกิจของตนไปพึ่งการผลิตและส่งออกปิโตรเลียม ทำให้รายได้จากการส่งออกน้ำมันมีมากกว่าร้อยละ 80 ของรายได้จากการส่งออกทั้งหมด เมื่อราคาน้ำมันร่วง คนเวเนซุเอลาทั้งประเทศก็ลำบากมาก

ไม่นานมานี้ รัฐบาลเวเนซุเอลาออกกฎหมายกำหนดให้กิจการการผลิตและจำหน่ายน้ำมันเป็นของรัฐบาล เอกชนไม่สามารถถือหุ้นในกิจการน้ำมันได้เกินกว่าร้อยละ 50 เมื่อราคาน้ำมันร่วงก็กระทบรายได้รัฐบาล และกระทบต่อไปถึงประชาชน ตามห้างสรรพ-สินค้าของเวเนซุเอลาว่างเปล่า เพราะไม่มีเงินไปซื้อสินค้าจากต่างประเทศมาให้ประชาชนบริโภค ประชาชนผลิตเองไม่เป็น แม้แต่กาแฟและโกโก้ที่เคยเป็นอันดับต้นๆของโลก ตอนนี้ก็ผลิตได้เพียงร้อยละ 1 ของปริมาณกาแฟโลก และใช้เพื่อการบริโภคภายในเวเนซุเอลาเองเท่านั้น

ผมเพิ่งอ่านบทความชิ้นหนึ่งถึงความทุกข์ของคนงานในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจำนวนไม่น้อยไม่ได้รับค่าจ้างมานานหลายเดือนแล้ว เช่น บริษัทก่อสร้างอันดับต้นๆของประเทศ กลุ่มก่อสร้างฮาริรี ที่ก่อตั้งโดยอดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน นายรอฟิก ฮาริรี (ถูกฆาตกรรมเมื่อกุมภาพันธ์ 2548) หลังจากบิดาถูกระเบิดตาย ก็ให้ลูกชายเป็นผู้ดำเนินการต่อ

อีกบริษัทหนึ่งซึ่งผมอ่านเจอก็คือ Saudi Oger ที่มีคนงาน 50,000 คน จากมากมายหลายสัญชาติ พนักงานคนหนึ่งของบริษัทนี้ออกมาเปิดเผยว่า…the salaries of nearly all have been delayed. เงินเดือนเกือบจะของทุกคนล่าช้า…at six months without a pay cheque, I am among the longest suffering. คนงาน คนนี้สื่อว่า หกเดือนแล้วตนเองยังไม่ได้รับค่าจ้าง “I don’t have money.” ผมไม่มีเงิน “It’s hard.” ลำบากมาก

กลับมาเรื่องของประเทศผู้ผลิตน้ำมันอย่างบรูไนดีกว่าครับ ด้านลบของบรูไนก็คือเศรษฐกิจไม่ดี ด้านบวกของบรูไนคือ ตราฮาลาลของ บรูไนแข็งแรงมาก น่าจะแข็งแรงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน แต่คนบรูไนผลิตสินค้าไม่เก่ง นี่เป็นโอกาสที่คนไทยน่าเข้าไปผลิตที่บรูไนเพื่อการส่งออกไปยังตลาดมุสลิมสองพันกว่าล้านคนทั่วโลก

ด้านบวกอีกอย่างหนึ่งก็คือ บรูไนเป็นสมาชิกทีพีพี ซึ่งประกอบไปด้วย 12 ประเทศสำคัญ มีประชากร 820 ล้าน เป็นร้อยละ 38 ของจีดีพีโลก หากใครไปตั้งฐานผลิตที่บรูไน ก็สามารถจะส่งออกสินค้าด้วยภาษีเป็น 0 ไปยังแคนาดา สหรัฐอเมริกา เปรู ชิลี เม็ก-ซิโก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม

เมื่อคิดถึง ฤทธิ์ของ “ตราฮาลาลบรูไน”+“ทีพีพี” ก็ขอเรียนว่าบรูไนเป็นประเทศที่มีศักยภาพมากกว่าประเทศผลิตน้ำมันรายอื่นๆ

ไม่ว่าจะเป็นซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย หรือแม้แต่เวเนซุเอลา

โอกาสของคนไทยมีอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก แต่บางประเทศอยู่ไกล จะบินไปกลับดูธุรกิจเสียเวลามาก บรูไนเป็นประเทศใกล้ บินจากประเทศไทยเพียงแค่สองชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว เพราะเป็นสมาชิกประชาคมอาเซียนด้วยกัน คนไทยไปบรูไน คนบรูไนมาไทยไม่ต้อง ใช้วีซ่า นึกอยากจะเดินทางก็ไปได้เลย เดินทางได้ทุกวัน

หลายประเทศเริ่มตัดมือไทย เช่น อเมริกาจับเราอยู่ในกลุ่มประเทศเทียร์ 3 ที่มีปัญหาการค้ามนุษย์ สหภาพยุโรป 28 ประเทศ ก็ตัดจีเอสพี เราไป 6,200 รายการ ฯลฯ

เราต้องช่วยกันดิ้นรนหาช่องทางให้คนไทยครับ

อยู่เฉยๆ มีแต่ตายลูกเดียว.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

การก่อการร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/597735

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 30 มี.ค. 2559 05:01

 

ขอเชิญสมาชิกสหกรณ์การเกษตรจากชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ภูเก็ต และระนอง พบกับ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ ที่โรงแรมทวินโลตัส นครศรีธรรมราช ซึ่งจะพูด “แก้ไขปัญหาสินค้าการเกษตรไทยด้วยการตลาดสากล” จัดโดยชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด พฤหัสบดีพรุ่งนี้ 15.00-17.00 น.

ความรุนแรงระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลรอบใหม่เริ่มเมื่อเดือนตุลาคม 2558 เพียงไม่ถึงปี ก็มีชาวปาเลสไตน์ตายไปแล้ว 200 คน อิสราเอล 28 คน

คนอิสราเอลมักจะตายด้วยการถูกวัยรุ่นปาเลสไตน์แทง ยิง และขับรถพุ่งชน ส่วนคนปาเลสไตน์มักจะตายจากการถูกตำรวจ ทหารของอิสราเอลรุมยิง

ทำไมวัยรุ่นปาเลสไตน์ถึงกล้าเข้าไปทำร้ายกลุ่มทหาร ตำรวจอิสราเอล ทั้งที่ตนมีแค่มีด แต่ทหาร ตำรวจมีปืนและอยู่กันเป็นกลุ่ม?

เพราะใจครับ ตั้งแต่เด็กจนโต พวกตนได้ฟังเรื่องราวที่อิสราเอลเข้ามาแย่งที่ดินของตน แถมยังฆ่าปาเลสไตน์ตายไปอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แค้นจนยอมสละชีวิต

สมัยก่อนตอนที่ยังไม่มีการถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือ คนทั้งโลกก็เพียงอ่านข่าวจากสื่อตะวันตกที่สื่อว่าปาเลสไตน์รุนแรงอย่างโน้น ไม่ดีอย่างนี้ ยกเว้นคนที่ได้ไปตระเวนอยู่ในทั้งปาเลสไตน์และอิสราเอลอย่างพ่อของผม ซึ่งได้ไปเห็นความจริงว่า คนอิสราเอลก่อกรรมทำเข็ญกับคนปาเลสไตน์ยังไง ก็จะเห็นใจชาวปาเลสไตน์

คนตายชาวปาเลสไตน์จำนวนไม่น้อยเป็นเด็ก บางครั้งเป็นเด็กที่อายุยังน้อย ไม่ถึงสิบขวบก็มี เป็นทารกก็มี วัยรุ่นปาเลสไตน์บางคนตายด้วยท่าทางที่ยังมีก้อนอิฐอยู่ในมือ ซึ่งถือเอาไว้เพื่อเตรียมขว้างรถถังอิสราเอลที่เข้ามากระทำย่ำยี ภาพเหล่านี้ สมัยก่อนต้องเดินทางไปดูด้วยตาตนเอง หรือไม่ก็ดูจากภาพที่แพร่กระจายไปในเฉพาะสื่อสารมวลชนของทางโลกอิสลามเท่านั้น สื่อตะวันตกไม่เอามาเผยแพร่ให้ทราบ

ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพได้+โซเชียลมีเดียที่แพร่ขยายกระจายภาพและเรื่องราวได้โดยไม่ต้องง้อสื่อขนาดใหญ่ เราก็เห็นภาพที่น่าขยะแขยงแขงขนของแท้ที่ฝั่งอิสราเอลทำมากขึ้นเรื่อยๆ

เมืองเฮบรอน อิสราเอล พฤหัสบดี 24 มีนาคม 2559 วัยรุ่นปาเลสไตน์ 2 คน ถือมีดวิ่งเข้าไปแทงกลุ่มทหารอิสราเอล จึงถูกกลุ่มทหารยิงและรุมยำจนลงไปนอนกองที่พื้น หนึ่งในสองของวัยรุ่นคือนายอับดุลฟาตาห์ อัล-ชารีฟ อายุ 21 ปี

เมื่อรถของหน่วยเคลื่อนที่การแพทย์และแพทย์พยาบาลของอิสราเอลมาถึงสถานที่เกิดเหตุ แพทย์ พยาบาลเข้าไปดูแลรักษาเฉพาะทหารอิสราเอล ไม่สนใจใยดีนายอับดุลฟาตาห์ที่นอนเจ็บอยู่บนพื้นถนน

จริยธรรมและพฤติกรรมการแพทย์สากล หมอจะต้องรักษาคนเจ็บ ก่อนนำตัวไปลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม

แต่สิ่งที่ผมกลับเห็นในคลิปวีดิโอก็คือ ทหารอิสราเอลคนหนึ่งยกปืนไรเฟิลยิงเข้าไปที่ศีรษะของนายอับดุลฟาตาห์

ทหารทั้งโลก ไม่ว่าจะทหารจากบ้านป่าเมืองเถื่อน จิตใจโหดอำมหิตขนาดไหน ก็จะไม่ฆ่าคนนอนเจ็บหายใจรวยรินกองอยู่บนพื้นดอกครับ คนนอนเจ็บยอมจำนนแล้ว ยอมให้จับกุมแล้ว หน้าที่ของทหาร ตำรวจก็คือจับกุม หน้าที่ของแพทย์และพยาบาลก็คือรักษา ไม่ใช่ยืนดูทหารยกปืนไรเฟิลขึ้นมายิงไปที่หัวของคนบาดเจ็บ

สมัยก่อนตอนที่ยังเป็นเด็กเล็กอยู่ พ่อมักจะแสดงความเห็นใจและพูดเข้าข้างชาวปาเลสไตน์และโลกอาหรับอยู่เสมอ พวกเราเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อชอบพูดแบบนั้น กระทั่งผมได้ดูคลิปวีดิโอทหารอิสราเอลยิงหัวคนเจ็บชาวปาเลสไตน์นี่ ผมเข้าใจแล้วครับ และเข้าใจว่าสงครามเกิดเพราะทหารอิสราเอลไม่มีจริยธรรมทหาร

ภาพอย่างนี้ถูกฝังลงไปในสมองของเยาวชนมุสลิมทั่วโลก ไม่ว่าจะอยู่ตรอกซอกมุมไหน หรืออยู่กลางป่าลึกเพียงใด เดี๋ยวนี้ต่างก็ดูภาพแห่งความโหดเหี้ยมอำมหิตกันได้ทั้งหมด คนที่ไม่เคยคิดจะกระโจนเข้าสู่ขบวนการการก่อการร้าย ก็อาจจะเริ่มคิดว่า เราต้องเข้าไปเพื่อช่วยมนุษย์ที่ด้อยกว่าต่อสู้กับมนุษย์ผู้แข็งแรงกว่าแต่อำมหิต

บางครอบครัวไม่ยอมคุมกำเนิด ต้องการมีลูกหลานเยอะๆ เพื่อใช้ต่อสู้กับฝ่ายอธรรมที่ถาโถมโจมตีทำลายล้างโลกอิสลามติดต่อกันมานานนับเป็นร้อยปี

คนหนึ่งตาย……

อีกหลายคนจะเกิดขึ้น

การก่อการร้ายจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

ยุคไอซิส ห้ามใช้มะม่วงบ่มแก๊ส

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/597260

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 29 มี.ค. 2559 05:01

 

ผมเขียนต้นฉบับอังคารวันนี้ ขณะที่พ่อและคณะอยู่ที่เนการาบรูไนดารุสซาลาม มาบรูไนคราวนี้ พวกเราเร่งทำภารกิจ แล้วก็ต้องรีบกลับเมืองไทย เพราะอังคารวันนี้ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ มีพูดที่สงขลา ส่วนพุธพรุ่งนี้ ก็ต้องไปพูดถึงการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ “ความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียน” รับใช้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ กอ.รมน.ส่วนกลาง กอ.รมน.ภาค, กอ.รมน.จังหวัด และหน่วยงานความมั่นคง 102 คน ที่โรงแรมสวนนงนุช รีสอร์ท ชลบุรี

วันเวลานาทีที่คณะอยู่บรูไน ตำรวจมาเลเซียจับผู้ต้องสงสัย 15 คน ข้อหาวางแผนก่อการร้ายในมาเลเซีย โดยพบมีการติดต่อและเกี่ยวดองหนองยุ่งกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส ที่เคลื่อนไหวอยู่ในซีเรียและอิรัก

ผู้ต้องหาทั้ง 15 คน มีอายุระหว่าง 22-49 ปี เป็นตำรวจมาเลเซีย 1 คน ผู้หญิง 4 คน พวกนี้พยายามซื้อสารเคมี เพื่อนำมาทำระเบิดและวางแผนก่อการโจมตีกรุงกัวลาลัมเปอร์กับเมืองอื่นในอีก 6 รัฐของมาเลเซีย

ผู้เชี่ยวชาญบางคนให้ข้อมูลว่า ในอาเซียน 10 ประเทศ มีเพียงแค่ 2 ประเทศเท่านั้นที่ปลอดไอซิส นั่นคือ เวียดนามกับลาว นอกนั้น ระโนงโยงเยงติดร่างแหอยู่ในรายชื่อประเทศที่ไอซิสสนใจจะเข้าไปปฏิบัติการในอนาคตอันใกล้ทั้งนั้น อีก 8 ประเทศที่เหลือจึงต้องรีบผลิตคนให้ทัน เพื่อใช้คนเหล่านั้นไปแก้ไขปัญหาใหญ่ที่จะมาถึงในอนาคต

การบรรยายในวันพุธพรุ่งนี้ เป็นเรื่องบังเอิญ ที่ กอ.รมน.และหน่วยงานความมั่นคง เชิญคนไปพูดที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อนเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว

09.30-11.00 น. บรรยายโดย ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ และ 13.00-14.30 น. บรรยายโดย ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง

ลุงอาทิตย์และพ่อผมเป็นนายร้อยตำรวจ น.บ., ร.บ.15 ทั้งคู่สอบเข้าได้คะแนนท็อปทรีของรุ่น อบรมที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพรานแล้ว ก็ไปเรียนรบนอกแบบ รบในแบบ นักโดดร่ม ฯลฯ ด้วยกันอีก และเลือกบรรจุเป็น ตชด.เหมือนกัน ลุงอาทิตย์เป็น ผบ.มว.ร้อย 8 กก.ตชด.เขต 3 ส่วนพ่อผมเป็น ผบ.มว.ร้อย 9 กก.ตชด.เขต 7

ถึงยศร้อยตำรวจโท ลุงอาทิตย์โอนมาสายปกครอง และเป็นผู้สัมผัสกับความมั่นคงชายแดนของภูมิภาคอาเซียนของแท้ เพราะเคยเป็นนายอำเภอจะแนะ นราธิวาสและนายอำเภอหนองจิก ปัตตานี (ชายแดนไทย-มาเลเซีย) ก่อนย้ายมาเป็นนายอำเภอโป่งน้ำร้อน จันทบุรี (ชายแดนไทย-กัมพูชา) ภายหลังเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และก้าวขึ้นมาเป็นอธิบดีกรมการปกครองในปัจจุบัน

ร.ต.ท.อาทิตย์ บรรยายเสร็จ พล.ท.อนุธัช บุนนาค ก็จะบรรยายต่อในหัวข้อ “เครือข่ายข่าวกรองอาเซียน” เวลา 14.45-16.00 น.

ตอนพ่อผมเป็นนักเรียนทุน ก.พ.ประเภท 2 ไปเรียนโซเวียต พ.ท.อนุธัช (ยศในขณะนั้น) เป็นรองผู้ช่วยทูตทหารบกประจำโซเวียต ทั้งคู่จึงเป็นคู่หูที่สามารถโยงเครือข่ายการก่อการร้ายในตะวันออกกลาง เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในสาธารณรัฐเล็กๆ ที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหพันธรัฐรัสเซียในปัจจุบันได้

นอกจาก พล.ท.อนุธัช ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ และ ร.ต.ท.อาทิตย์แล้ว การพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติในครั้งนี้ ยังมีผู้บรรยายอีก 2 คนคือ พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 2 และนายเศรษฐภัทร์ ภู่พันธ์ศรี ผอ.สำนัก 6 (การก่อการร้าย)

การผลิตทรัพยากรมนุษย์ของหน่วยงานราชการไทยสมัย สงครามเย็น ผู้ใหญ่ท่านทำกันอย่างละเอียด มีการส่งคนไปเรียนต่อในสถานที่ต้นตอของปัญหา และส่งเจ้าหน้าที่ไปทำงานสั่งสมประสบการณ์ในตำแหน่งหน้าที่ที่อยู่กับปัญหาของจริง จากนั้น จึงค่อยย้ายเวียนให้ไปหาประสบการณ์เพื่อให้สัมผัสปัญหาอย่างเป็นองค์รวม ก่อนจะให้ไปรับตำแหน่งระดับสูงที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับความเป็นความตายของบ้านเมือง

รัฐบาลไทยสมัยก่อน คัดคนเรียนเก่ง ทำงานทุ่มเท เอาคนพวกนี้ไปทุ่มทุนสร้าง เพื่อให้เป็นผู้ใหญ่ทำงานรับใช้ประเทศได้อย่างสมบูรณ์ต่อไปในอนาคต

แต่สมัยนี้ ระบบอุปถัมภ์มาแรง เราจึงเจอผู้บังคับบัญชาประเภทมะม่วงบ่มแก๊สอยู่จำนวนหนึ่ง มะม่วงที่ถูกเอามาบ่มแก๊สเพื่อให้สุกก่อนเวลาอันควร จะทานไม่อร่อย ผู้บังคับบัญชาบ่มแก๊สที่โตมาได้เพราะระบบอุปถัมภ์ทำงานแก้ไขปัญหาโดยมองโลกได้ไม่ครบทุกมิติงานที่ทำออกมาจึงแหว่งๆ วิ่นๆ ชิ้นงานไม่สวย

ในยุคไอซิส งานที่เกี่ยวกับความเป็นความตาย

ห้ามใช้คนที่เป็นมะม่วงบ่มแก๊สมาทำนะครับ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

อย่าประมาทการก่อการร้าย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/596917

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 28 มี.ค. 2559 05:01

 

นายศิริชัย ออสุวรรณ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ พูด “สินค้าเกษตรไทยก้าวไกลไปตลาดโลก” รับใช้ประธาน กรรมการผู้บริหาร ที่ปรึกษาของสหกรณ์การเกษตรจากยะลา นราธิวาส ปัตตานี สตูล สงขลา พัทลุง และตรัง 250 คน 08.30-10.00 น. อังคาร วันพรุ่งนี้ ที่โรงแรมบีพี สมิหลา บีช รีสอร์ท สงขลา

เปิดฟ้าส่องโลกของไทยรัฐเขียนถึงนูซานตารารายา หรือมหารัฐอิสลามเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้ว

นูซานตารารายาทำให้ทั้งนักวิชาการ ทหาร ตำรวจ และหน่วย งานความมั่นคงของสมัยนั้นหัวเราะคนเขียนเปิดฟ้าส่องโลกกันจนฟันกระเด็นออกมานอกปาก

เสียงหัวเราะเริ่มหุบไปทีละปากสองปาก เมื่อประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์พูดเรื่องมหารัฐอิสลามในอีกไม่กี่ปีต่อมา ตามด้วยรัฐบาลออสเตรเลียที่ออกมายอมรับว่ามหารัฐอิสลามที่จะจัดตั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น มีอยู่จริง

มหารัฐอิสลาม หรือสาธารณรัฐอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในโลกประกอบไปด้วย พื้นที่ภาคใต้ของไทย กินบริเวณตั้งแต่จังหวัดชุมพร ลงไปจนถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน อินโดนีเซีย ภาคใต้ของฟิลิปปินส์ และภาคเหนือของออสเตรเลีย

นูซานตารารายาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐคอลิฟะฮ์ ที่ปกครองโดย กฎหมายอิสลาม มหารัฐอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นแผ่นดินหลักที่จะใช้ต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาและโลกตะวันตก ในมหาสงครามครูเสด ซึ่งต่อสู้กันมาตั้งแต่ ค.ศ.1096 (920 ปีที่แล้ว) ซึ่งเป็นสงครามครูเสด ครั้งที่ 1 จนถึงสงครามครูเสดครั้งที่ 10 ซึ่งมีการเคลื่อนไหวที่จะทำให้เกิดสงครามครูเสดขึ้นมา อีกใน ค.ศ.1460 (556 ปีที่แล้ว)

มีการก่อการร้ายเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดือนสิงหาคม 2543 มีการระเบิดทำเนียบทูตในกรุงจาการ์ตา คริสต์มาสอีฟ 24 ธันวาคม 2543 มีระเบิดเกิดขึ้นหลายแห่งในอินโดนีเซีย ทั้งที่บาตัม ที่จังหวัดหมู่เกาะรีเยา ที่มาตาราม ที่เปกันบารู ที่จาการ์ตา ที่เมดาน ที่โมโจเกอร์โต ที่บันดุง ที่ซูคาบูมี ฯลฯ อีก 6 วันต่อมา ก็มีระเบิดในกรุงมะนิลา

ปีต่อมา พ.ศ. 2544 มีเหตุระเบิดโบสถ์คริสต์ในกรุงจาการ์ตา เดือนต่อมาห้างสรรพสินค้าอาเทรียมมอลล์ในกรุงจาการ์ตาก็โดนระเบิด และตามด้วยการระเบิดอีกมากมายหลายสิบแห่ง ในหลายสิบเมือง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์

พ.ศ. 2544- 2545 ผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกยุคนั้น เสนอหลักสูตรเกี่ยวกับมหารัฐอิสลามไปให้รัฐมนตรีกลาโหมของไทยเพื่อให้นำไปใช้ประโยชน์ในหลักสูตร มีตั้งแต่แนวคิด ยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีของพวกสนับสนุนมหารัฐอิสลาม แต่หลักสูตรไม่ได้ถูกนำไปใช้

ทั้งที่ในขณะนั้น มีการเปิดเผยผลของการประชุมแนวร่วมอิสลามโลกที่กรุงลอนดอน (พ.ศ.2541) ที่มีอุซามะฮ์ บินลาดิน (เครือข่ายอัลกออิดะห์) อัยมาน อัลซอวะห์รี กลุ่มอัลญิฮาด ฯลฯ ที่ประชุมมีมติให้ออกคำประกาศญิฮาดต่อพวกยิวและพวกครูเสด

การไปเยือนสนามจริงในซีเรีย อิรัก อิหร่าน คูเวต จอร์แดน ปาเลสไตน์ ซาอุดีอาระเบีย ตุรกี ชายแดนปากีสถาน-อัฟกานิสถาน+ การเชื่อมกับการกระดิกพลิกตัวของกลุ่มคลั่งศาสนาหัวรุนแรงในบางสาธารณรัฐในรัสเซีย เอเชียกลาง และสาธารณรัฐรอบทะเลดำ ทำให้ พวกเราตระหนักว่าภัยจากการก่อการร้ายน่ากลัวมากกว่าที่พวกเราจะเคยคิด

ผู้ก่อการร้ายบางกลุ่มมีประวัติการต่อสู้ยาวนานกว่ากองทัพแห่งชาติของประเทศนั้นเสียอีก สมัยที่เนเธอร์แลนด์เข้ามาปกครองอินโดนีเซีย มีขบวนการดารุ้ลอิสลามซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมที่ต่อสู้แบบกองโจร เพื่อให้อินโดนีเซียได้รับเอกราช

ต่อมา หนึ่งในกลุ่มย่อยของดารุ้ลอิสลามได้ออกมาตั้งขบวนการญะมาอะฮ์ อิสลามิยะห์ ที่มีผลงานการก่อวินาศกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกินร้อยครั้ง

รัฐบาลของหลายประเทศในภูมิภาคยอมรับว่ามีการก่อการร้ายในแผ่นดินตัวเอง และจับสมาชิกของกลุ่มต่างๆ เข้าคุกได้หลายคน เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่บางประเทศ ผู้ใหญ่ยังอ้อมๆ แอ้มๆ พูดจาไม่เต็มปากเต็มคำว่าประเทศของตนเองมีสมาชิกของขบวนการการก่อการร้าย อาจจะเป็นเพราะกลัวจะกระทบการท่องเที่ยว บางประเทศก็มีนักท่องเที่ยวเหมือนกัน เช่น สิงคโปร์ แต่รัฐบาลสิงคโปร์ก็ประกาศและกวาดจับคนสิงคโปร์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าคุกไปเป็นจำนวนหลายสิบคน

ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่าประมาทครับ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

จะยุติการก่อการร้ายได้อย่างไร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/595434

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 25 มี.ค. 2559 05:01

 

นายต่อศักดิ์ สวนใจ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี

เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ พูดสร้างแรงบันดาลใจเพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ เวลา 08.30-10.30 น. ของศุกร์วันนี้ ที่เรือนจำ จังหวัดนนทบุรี

ผมขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์วินาศกรรมในกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม และขอประณามอย่างรุนแรงต่อผู้ก่อการวินาศกรรมดังกล่าว

24 ธันวาคม 2534 เป็นต้นมา สหรัฐฯเป็นมหาอำนาจเดี่ยว หนึ่งเดียวของโลก การกระทำของอเมริกาในห้วงช่วง 20 ปี หลังจาก โซเวียตล่มสลาย ได้สร้างความขุ่นเคืองให้กับผู้คนบนโลกหลายกลุ่ม สหรัฐฯส่งปฏิบัติการไปถล่มโลกตะวันออกกลางและเอเชียใต้หลายครั้งอย่างอยุติธรรม และอย่างผิดกฎหมายระหว่างประเทศ

เนื่องจากอาวุธยุทโธปกรณ์และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาและโลกตะวันตกกับกลุ่มประเทศที่โดนเล่นงานต่างชั้นกันมาก ไม่มีทางสู้รบปรบมือกันด้วยสงครามในแบบได้เลย

มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะเล่นงานสหรัฐอเมริกาและเครือข่าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศตะวันตกได้ก็คือ สงครามการก่อการร้าย

11 กันยายน 2544 เป็นต้นมา เมืองกลายเป็นจุดอ่อนของสงครามการก่อการร้าย การก่อการร้ายในยุคโบราณไม่มีระบบแบบแผน ไม่ได้มุ่งประสงค์ให้เกิดความรุนแรงขนาดใหญ่ มุ่งทำต่อตัวบุคคลเป็น เป้าหมายหลัก แต่ทุกวันนี้การก่อการร้ายทำเป็นระบบแบบแผน และ ได้กลายเป็น urban terrorism หรือเป็นการก่อการร้ายในเมือง

ผู้นำโลกกำลังคิดกันอยู่ว่า การก่อการร้ายจะจบได้ยังไง เปิดฟ้าส่องโลกของวันพุธที่ผ่านมา ผมรับใช้ถึงเรื่องสงครามกลางเมืองที่รบพุ่งกันมายาวนานถึง 26 ปี (พ.ศ.2526-2552) ในประเทศศรีลังกา และบั้นปลายท้ายที่สุด ฝ่ายขบวนการพยัคฆ์ทมิฬอีแลมก็หมดฤทธิ์ แพ้ กองกำลังของรัฐบาลศรีลังกาอย่างราบคาบ สงครามจบลงอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะนายเวฬุพิไล ประภาการัน ถูกฆ่าเมื่อ 19 พฤษภาคม 2552

หลายท่านจะเอารูปแบบการปราบปรามขบวนการพยัคฆ์ทมิฬอีแลมมาใช้กับขบวนการการก่อการร้ายที่ปฏิบัติการในโลกตะวันตก ผมขอเรียนนะครับว่า ใช้ไม่ได้ดอกครับ เพราะพยัคฆ์ทมิฬไม่มี เครือข่ายใหญ่โตและระโนงโยงใยไปทั้งโลก แถมพื้นที่ปฏิบัติ

การก็จำกัดเพียงแค่เฉพาะอยู่ในประเทศศรีลังกา หัวหน้าขบวนการก่อการร้ายที่ปฏิบัติการทั้งโลกอยู่ในขณะนี้ ถูกฆ่าตายไปมากมายหลายคน แต่ขบวนการก่อการร้ายก็ไม่จบ มีตัวตาย ตัวแทนกันขึ้นมาเรื่อยๆ

พ.ศ.2523 มีกลุ่มการก่อการร้ายที่มีกิจกรรมข้ามชาติทั้งหมด 64 กลุ่ม มีเพียง 2 กลุ่มเท่านั้นที่เป็นกลุ่มการก่อการร้ายที่มีแรง จูงใจทางศาสนา แต่ใน พ.ศ.2535 กลุ่มการก่อการร้ายทางศาสนาเพิ่มขึ้น เป็น 11 กลุ่ม พ.ศ.2537 เพิ่มเป็น 16 กลุ่ม พ.ศ.2538 เพิ่มเป็น 26 กลุ่ม และขณะนี้ ผมเชื่อว่ากลุ่มการก่อการร้ายที่มีแรงจูงใจทางศาสนาที่กระจัดพลัดพรายทำงานกันอยู่ทั้งโลกมีเป็นร้อยกลุ่ม

การฆ่าให้ตาย ไม่ใช่เป็นการยุติการก่อการร้ายใหม่ ห้วงช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา ก็พิสูจน์แล้วนะครับว่ากลับยิ่งเพิ่มจำนวนผู้ก่อการร้ายมากขึ้น

ผมว่า มีเพียงหนทางเดียวที่จะยุติการก่อการร้าย ก็คือ การ สร้างกระบวนทัศน์ให้มองเห็นว่าความรุนแรงไม่ใช่คำตอบในการแก้ไขปัญหา

เราต้องยอมรับนะครับ นับแต่ พ.ศ.2534 เป็นต้นมา พื้นฐานความขัดแย้งในโลกของเราใบนี้ไม่ได้เกิดมาจากเศรษฐกิจหรืออุดมการณ์เหมือนในยุคสงครามเย็น แต่เป็นความขัดแย้งที่เกิดมาจากความอยุติธรรมของประเทศมหาอำนาจเดี่ยวและเครือข่ายประเทศตะวันตก

เรื่องนี้เหมือนเป็นเวรกรรมนะครับ พวกคุณร่วมมือกับสหรัฐฯ ส่งกองกำลังไปรุมยำประเทศเขาก่อน เดี๋ยวไปอิรัก เดี๋ยวไปที่อัฟกานิสถาน เดี๋ยวไปเล่นงานลิเบีย ขณะนี้ก็กำลังรุมยำกันอยู่ที่ซีเรีย แล้วเป็นไงครับ ผู้คนเป็นแสนนับล้านคนอพยพจากประเทศที่คุณไปรุมยำ ย้ายไปอาศัยอยู่ในบ้านเมืองของคุณ ซึ่งคุณก็ดูไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่รู้ดอกว่าใครเป็นใคร คราวนี้ละครับ กรรมจะตกอยู่ที่ประเทศของคุณ ความยุ่งยากจะเกิดขึ้นในประเทศของคุณต่อไปอีกนานเท่านาน

ส่วนตัวหัวหน้า คือสหรัฐอเมริกาผู้ก่อเรื่อง กลับเป็นผู้ได้รับผลกรรมผลเวรน้อยที่สุด ผู้อพยพเข้าเมืองก็มีน้อย การก่อการร้ายก็มีน้อยจนเดี๋ยวนี้แทบจะไม่มีเลย เพราะตนเองป้องกันทุกทาง

แต่พวกประเทศคอหอยลูกกระเดือกของสหรัฐอเมริกานี่สิครับ ตอนนี้โดนกันจนกระอักเลือดทุกประเทศ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

ต้องแก้ปัญหาด้วยความนุ่มนวล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/594888

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 24 มี.ค. 2559 05:01

 

“ชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุ และโทรทัศน์ไทย จัด กิจกรรมศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจไทย ว่าด้วยการหลั่งไหลเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจากจีน จนเกิดเป็นข่าวหนาหูว่า มีการครอบงำธุรกิจบางประเภทของไทยในลักษณะครบวงจร โดยที่คนไทยเจ้าของประเทศมีส่วนได้ประโยชน์น้อยมาก พฤติกรรมดังกล่าวค่อยๆกระจายไปตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ รวมถึง ธุรกิจอุตสาหกรรมน้อยใหญ่ในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดธุรกิจเสรีที่ยากต่อการควบคุม”

“ชมรมฯขอเชิญท่านไปร่วมอภิปรายเชิงศึกษาวิเคราะห์ร่วมกับผู้รู้ท่านอื่น อาทิ อาจารย์ทรงฤทธิ์ โพนเงิน คอมเมนเตเตอร์รายการสวัสดีอาเซียน จากคลื่นวิทยุ FM 100.5 MHz นายวิโรจน์ สิตประเสริฐ–นันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และนายวิรวัฒน์ เปี่ยมวิวัตติกุล นักธุรกิจจากจังหวัดภูเก็ต”

“การอภิปรายครั้งนี้ ชื่อว่า ทุนนิยมจีนตกเขียวเศรษฐกิจไทยจริงหรือ? จัดระหว่างเวลา 13.00-16.30 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2559 ที่อาคารอเนกประสงค์ กรมประชาสัมพันธ์ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ”

นั่นคือ อีเมลเชิญที่พ่อผมได้รับจากนายณรงค์ ปานนอก ชมรม คอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุ และโทรทัศน์ไทย

ความตระหนกตกใจเรื่องทุนจีนเข้ามาครอบงำธุรกิจไทยเป็นกระแสแรงมากในปัจจุบัน มีการจัดอภิปรายในเรื่องนี้หลายแห่ง แต่การอภิปรายก็ต้องอยู่ในขอบเขตและระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นกระแสต่อต้านทุนจีนและคนจีนอย่างรุนแรงก็จะเกิดขึ้นในไทย เช่นเดียว กับที่เกิดขึ้นมาแล้วในเวียดนามและหลายประเทศในทวีปแอฟริกา

คนไทยจำนวนไม่น้อยมีเชื้อจีน อย่างพวกผมเอง ย่าทวดท่านหนึ่งก็มาจากเมืองจีน นามสกุลแซ่ลี้ ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งจีน ทั้งอินเดีย ทั้งไทย ทั้งกัมพูชา ฯลฯ จนพูดไม่ได้แล้วครับ ว่าเรามีเชื้อสายดั้งเดิมอะไรกันบ้าง แต่ปัจจุบันทุกวันนี้ ทุกคนเป็นคนไทย สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย ใช้บัตรประชาชนและหนังสือเดินทางไทย ทุกการกระดิกพลิกตัวของเรา เรายึดประโยชน์ของไทยเป็นสรณะ เป็นอันดับหนึ่ง เป็นที่หนึ่ง

คนจีนยุคก่อนเข้ามาเมืองไทยเพื่อเป็นคนไทย เข้ามาลงหลักปักฐาน แต่นักธุรกิจหลายชาติที่เข้ามาประเทศไทยในปัจจุบันไม่ได้ ต้องการอย่างนั้น เข้ามาทำธุรกิจกินรวบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ไม่เหลือเศษประโยชน์ให้คนไทยเลย

ตอนนี้เกษตรกรไทยไปไม่รอด น้ำแล้ง ทำนาไม่ได้ ชาวสวนต้องซื้อน้ำรดต้นไม้ ราคายางพาราตกต่ำจนไม่คุ้มค่าราคาในการกรีด ได้ผลผลิตบ้างเล็กๆน้อยๆ ก็ต้องนำไปในตลาดที่ตกอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางต่างชาติอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตลาดผลไม้บางประเทศในหลายจังหวัดตกอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางต่างชาติเกือบ 100% ไปแล้ว

ขายผลผลิตทางการเกษตรได้เงินน้อยมาก แม้แต่จะนำไปซื้ออาหารให้อิ่มพอต่อท้องของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ก็ยังทำไม่ได้ ลูกหลานที่เคยเรียนหนังสือต้องออกเรียนกลางคัน โสเภณีเด็กและวัยรุ่นในวัยศึกษาหาง่ายได้มากกว่ายุคใดในประวัติศาสตร์ชาติไทย เศรษฐกิจและสังคมของผู้คนภาคเกษตรกรรมล่มไปแล้วกว่าครึ่ง

แค่โดนจดหมายทวงหนี้จากธนาคารครั้งสองครั้ง เกษตรกรก็ต้อง ตาลีตาเหลือกขายทรัพยากรที่ดินของตนไปในราคาถูกเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ จากนั้นก็หอบลูกจูงหลานอพยพเข้ามาเป็นคนจนในเมือง

ลองไปสืบสวนหาข่าวดูเถิดครับ ที่ดินเกษตรกรรมถูกเปลี่ยนมือในยุคนี้มากที่สุด ถูกเปลี่ยนไปเป็นกรรมสิทธิ์ของนายทุนจังหวัด นายทุนชาติ นายทุนต่างชาติ บางบริษัทครอบครองที่ดินถึง 6.3 แสนไร่ ก็มี

บางข้อมูลให้ตัวเลขว่า นายทุนต่างชาติใช้ตัวแทนเข้ามาถือกรรมสิทธิ์ในประเทศไปแล้ว รวมมากกว่า 100 ล้านไร่ เรื่องนี้ ต้องมีหน่วยข่าวเช็กว่าเป็นความจริงหรือไม่? ผมตามพ่อไปพูดรับใช้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ หัวข้อสนทนาเมื่อพบ ปะกันก็คือ การเข้ามากว้านซื้อที่ดินหรือเช่าที่ดินเพื่อทำการเกษตรของนายทุน ทั้งนายทุนจังหวัด นายทุนชาติ และนายทุนต่างชาติ คุยกันเรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่ง

ผมเชื่อว่า นายอำเภอ ผู้ว่าฯ และข้าราชการทราบเรื่องนี้ดี แต่ไม่มีใครกล้าจัดการ เพราะกลัวอิทธิพลนายทุนที่เชื่อมกับผู้ใหญ่ระดับประเทศ

การจัดอภิปรายปัญหาพวกนี้ดีครับ แต่ต้องไม่เป็นไปในทางยั่วยุให้เกิดการต่อต้านอย่างรุนแรง จนกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ปัญหานี้อ่อนไหวมาก จึงต้องแก้ไขกันอย่างมีสติ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

ต.ย.สิ้นสุดสงครามกลางเมือง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/594334

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 23 มี.ค. 2559 05:01

 

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ พูด “รับใช้นักบริหารงานทั่วไป” หัวหน้าสำนักปลัด หัวหน้าฝ่าย 89 คน พุธวันนี้ 09.00-12.00 น. ที่อาคาร 2 สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ปทุมธานี

ผู้อ่านท่านถามมาใน Line Official ไอดี @LGJ0596P ว่า มีการก่อการร้ายแยกดินแดนของประเทศไหนบ้างไหมครับ ที่สงบจบลงอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด?

ขอเรียนว่า มีที่ศรีลังกาครับ สมัยก่อนตอนโน้น ครอบครัวผมไปศรีลังกากันบ่อยมาก บางปีไปหลายครั้ง ไปแต่ละครั้งก็จะเจอเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลศรีลังกากับพวกแบ่งแยกดินแดนพยัคฆ์ทมิฬ ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองของประเทศที่มีประชากร 20 ล้านคน ที่ร้อยละ 75 เป็นชาวสิงหล และร้อยละ 11 เป็นชาวทมิฬศรีลังกา ที่เหลือเป็นพวกมัวร์ มาเลย์ อินเดีย ยุโรป ฯลฯ

ปัญหาของสงครามกลางเมืองในศรีลังกาเริ่มมาจากการถูกอังกฤษเข้ามาปกครอง และใช้นโยบายแบ่งแยกและปกครอง ขณะปกครอง อังกฤษเอาใจชาวทมิฬแต่กดขี่ชาวสิงหล แถมยังเอาคนทมิฬจากอินเดียเข้ามาทำงานในไร่ชาของศรีลังกาเป็นจำนวนมาก การนำชาวทมิฬเข้ามาเป็นการกลืนชาติอย่างหนึ่ง

ระยะเวลาร้อยกว่าปีที่อังกฤษปกครอง พวกชาวทมิฬแฮปปี้มีความสุข มีอิสรภาพ มีการศึกษาและโอกาสในการทำงานดีกว่าพวก สิงหล ได้รับราชการ ส่วนชาวสิงหลนั้นลำบาก ถูกคนอังกฤษกดขี่ แต่ พอจะได้รับเอกราช อังกฤษก็ให้มีการตั้งสภาชาวท้องถิ่นขึ้นมาปกครองเพื่อเป็นการทดลอง แต่เพราะจำนวนประชากรชาวสิงหลมีมากกว่าทมิฬ เลือกตั้งทีไร ชาวสิงหลก็ชนะทุกครั้งไป

เมื่อได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์ พวกสิงหลก็เป็นใหญ่ ก็เอา ภาษาสิงหลเป็นภาษาราชการ พวกทมิฬหลายคนต้องออกจากงาน เพราะใช้ภาษาสิงหลได้ไม่คล่อง (เดี๋ยวนี้ใช้ทั้งภาษาสิงหลและภาษาทมิฬเป็นภาษาราชการ) แถมยังเอาศาสนาพุทธมาตั้งเป็นศาสนาประจำชาติ ระบบโควตาที่นั่งเรียนในมหาวิทยาลัย ชาวสิงหลก็ได้มากกว่า เมื่อพวกทมิฬไม่ยอมก็ตีกัน

รัฐบาลศรีลังกาในสมัยนั้นขาดความยุติธรรม เมื่อพวกสิงหลทำผิดก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่จับ แต่พอทมิฬทำผิด กลับโดนจับ เข้าคุก มีการตัดสินคดีอย่างไว ความไม่ยุติธรรมนี่ล่ะครับ ทำให้พวก ทมิฬที่มีอยู่ร้อยละ 11 เห็นว่าท่าจะอยู่ร่วมชาติกันลำบากแล้ว จึงก่อตั้งเป็นกองกำลังติดอาวุธหลายกลุ่มเพื่อป้องกันตนเองจากรัฐบาล

สำหรับเรื่องโควตานักศึกษา มีนักศึกษาทมิฬไม่พอใจเป็นอย่างมาก นักศึกษาหนุ่มคนหนึ่งชื่อ นายเวฬุพิไล ประภาการัน นายคนนี้เป็นคนหัวรุนแรงมาก แกฆ่านายกเทศมนตรีเมืองจาฟนา นายกฯคนที่ถูกฆ่าเป็นทมิฬ แต่ไปสนับสนุนรัฐบาลศรีลังกา เมื่อมีผลงานแถมยังใจกล้า นายประภาการันก็กลายเป็นศูนย์กลางของทมิฬที่ต่อต้านรัฐบาล บั้นปลายท้ายที่สุด แกก็สร้างกองกำลังก่อการร้ายที่มีชื่อว่า พยัคฆ์ทมิฬอีแลม

ผลงานสำคัญชิ้นแรกๆของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2526 ก็คือการฆ่าทหารศรีลังกาชาวสิงหล 13 คน ประชาชนคนสิงหลจึงแก้แค้นด้วยการเข้าไปทำลายทรัพย์สินของชาวทมิฬในหลายพื้นที่ รัฐบาลออกคำสั่งให้จับกุมทั้ง 2 ฝ่าย แต่ ตำรวจก็จับแต่พวกทมิฬ เหตุการณ์ก็เลยบานปลายเข้าไปใหญ่ ทำให้ มีคนตายหลายพัน บ้านเรือนเสียหายมากกว่า 13,000 หลัง เหตุการณ์ครั้งนี้นี่ล่ะครับที่เราเรียกว่า กรกฎาทมิฬ หรือ Black July

จุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมืองคือ กรกฎาคม 2526 และเป็นหนึ่งในสงครามกลางเมืองที่ใหญ่และยาวนาน สร้างความเสียหายให้กับประเทศได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

การฆ่ากันของ 2 เผ่าพันธุ์ที่อยู่ในประเทศเดียวกัน หมุนเปลี่ยนเวียนกันไป พ้นเหตุการณ์กรกฎาทมิฬ นายประภาการันก็ฆ่าชาวนาสิงหลครั้งเดียว 62 คน เข้าไปปล้นรถที่เมืองอนุราธปุระ เข้าไปที่วัดต้นศรีมหาโพธิ์ ฆ่าพระ เณร ชี และคนที่ไปทำบุญครั้งเดียว 146 คน

การฆ่ากันเกิดขึ้นแรงอย่างนี้ทุกปี ติดต่อกันเป็นเวลานานถึง26 ปี จนถึงเวลา 07.30 น. ของ 19 พฤษภาคม 2552 มีการรบกันในพื้นที่สุดท้ายของกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ยิงกัน 2 ชม.เต็ม พวกกบฏตายหมด 1 ในนั้นคือ นายประภาการัน

นายประภาการันตายแล้ว พยัคฆ์ทมิฬพลัดถิ่นก็ตั้งนายเสลวารัสขึ้นเป็นผู้นำ อีกไม่กี่เดือนก็ถูกจับได้และถูกตัดสินจำคุก

วันนี้ไปศรีลังกา ไม่มีสงครามกลางเมือง ไม่มีความขัดแย้งสงบกันทั้งประเทศครับ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

ศัตรูเคหสถาน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/593854

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 22 มี.ค. 2559 05:01

 

นายนิรันคร์ ศิริอาภรณ์ธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบกิจการกำจัดแมลง เชิญ ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ พูดและตอบคำถาม

“ธุรกิจกำจัดศัตรูเคหสถานในโลก” รับใช้สมาชิกสมาคมฯ ในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี อังคารวันนี้ 14.00-17.00 น. ที่ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ

ศัตรูเคหสถานหมายถึง สิ่งที่มีชีวิตที่มีประวัติการอยู่ร่วมกับมนุษย์ บุกรุก ทำความเสียหายในที่อยู่อาศัย ปนเปื้อนในอาหาร ก่อความรำคาญ น่ากลัว และผลอื่นๆในทางลบต่อมนุษย์+สัตว์เลี้ยงในบ้าน

ดูเผินๆ ธุรกิจด้านนี้ในโลกไม่น่าจะมีมูลค่ามาก เพราะดูเงียบๆ เรียบๆ แต่โดยแท้ที่จริง เป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาลในแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจกำจัดแมลง ทั้งปลวก มด แมลงสาบ ยุง แมลงวัน แมลงหวี่ ผึ้ง ต่อ แตน เหา เรือด หมัด มอดข้าว มอดไม้ ด้วงก้นกระดก เพลี้ย หนอนผีเสื้อ ฯลฯ กำจัดสัตว์ที่ใกล้เคียงกับแมลง เช่น แมงมุม กิ้งกือ ตะขาบ ตะขาบฝอย แมงป่อง ตัวสามง่าม ฯลฯ และกำจัดสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น เช่น หนู กระรอก นก จิ้งจก ตุ๊กแก งู คางคก อึ่งอ่าง หอย หอยทาก วัชพืช แบคทีเรีย เชื้อรา ฯลฯ

ปัจจุบัน หลายสถาบันการศึกษามีการเรียนการสอนทางวิทยาศาสตร์และการป้องกันกำจัด ฝรั่งเรียกวิชานี้ว่า Urban Entomology ภาษาไทยมีการเรียกกันว่า กีฏวิทยาชุมชนเมือง ผู้ที่มีความรู้เรื่องนี้เด่นๆ ในประเทศไทย ผมว่าเป็นท่านรองศาสตราจารย์ ดร.อินทวัฒน์ บุรีคำ ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร ม.เกษตรศาสตร์

ไม่ต้องที่ไหนดอกครับ บ้านผมนี่แหละ ขณะนี้มีปัญหากับนกพิราบมาก ตอนที่ไข้หวัดนกระบาด หลายคนก็เข้าใจผิดว่า นกพิราบนำเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง H5N1 แต่ที่จริงไม่ใช่ นกพิราบเป็นพาหะของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เพราะเชื้อคริปโต–ค็อกคัส พบในมูลของนกพิราบ เมื่อคนเราหายใจเชื้อคริปโตค็อกคัสก็เข้าไปในปอด ผ่านกระแสเลือดไปที่เยื่อหุ้มสมอง เราเรียกโรคนี้ว่า Cryptococcal meningitis เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อคริปโตค็อกคัส

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีหลายประเทศที่คนเป็นเหา เมื่อคนเหล่านั้นมาทำงาน มาเที่ยว หรือมาซื้อข้าวของในประเทศไทย เหาก็มาระบาดในประเทศของเราได้ การดูดกินเลือดของเหาทำให้คัน ถ้าเกามากก็อักเสบ และเป็นแผลติดเชื้อ เหาคนยังเป็นพาหะนำโรคไข้รากสาด โรคท้องร่วง และโรคไข้กลับ

เดี๋ยวนี้คนท่องเที่ยวกันเยอะ ไปเที่ยวแล้วอาจจะได้เหากลับมา เพราะไปใช้หมอนในรีสอร์ตที่ไม่ได้มาตรฐาน การท่องเที่ยวของไทยต้องให้ความสนใจเรื่อง กีฏวิทยาชุมชนเมือง ต้องให้ความรู้ด้านการกำจัดศัตรูเคหสถาน เพราะต่อไปสุขอนามัยจะเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้วัดมาตรฐานทุกด้าน ไม่ว่าด้านอาหารการกิน หรือการท่องเที่ยว

มีหลายประเทศในประชาคมอาเซียนที่เพิ่งเปิด และกำลังบูมเรื่องการตั้งโรงงาน การสร้างอาคารบ้านเรือน การท่องเที่ยว ฯลฯ เท่าที่ผมตระเวนเทียวเที่ยวไปในภูมิภาคนี้ ผู้คนพื้นถิ่นยังให้ความสำคัญทางด้านนี้กันน้อยมาก แต่นักธุรกิจ นักลงทุน และนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญทางด้านนี้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งสินค้าไปยังประเทศที่มีมาตรฐานสูง ตรวจเจอไรฝุ่นเท่านั้นนะครับ ผู้ซื้อยกเลิกสินค้าทั้งลอต

ภัตตาคารร้านอาหารก็เหมือนกัน ในหลายประเทศยังไม่ระวัง เรื่องศัตรูเคหสถาน เข้าไปในแผงอาหาร เห็นแมลงวันตอมหึ่ง ทั้งแมลงวันบ้าน แมลงวันหัวเขียว และแมลงวันหลังลาย หลายแห่งเลี้ยงหมูหมากาไก่อยู่ในบริเวณร้านอาหาร อุจจาระเปรอะประ แมลงวันไปตอมอุจจาระ แล้วก็มาตอมอาหาร

เฉพาะแมลงวันบ้านเพียงอย่างเดียว มีการศึกษาวิจัยค้นพบว่า เป็นพาหะนำเชื้อโรคมาได้มากกว่า 100 ชนิด แต่มีเพียง 65 ชนิด ที่ทำให้เกิดโรคได้ เช่น โรคไข้รากสาด อหิวาตกโรค โรคบิด โรคท้องร่วง โรคท้องเสีย โรคอาหารเป็นพิษ วัณโรค โรคแอนแทร็กซ์ โรคตาอักเสบ โรคพยาธิ โรคโปลิโอ โรคเรื้อน โรคตับอักเสบ ฯลฯ

ผมว่าอนาคตของธุรกิจกำจัดศัตรูเคหสถานดีมากครับ เพราะว่าทั้งโลกต้องพึ่งพาธุรกิจนี้หมด

ธุรกิจการให้บริการโทรเลข การสร้างโรงงานผลิตเครื่องโทรสารธุรกิจสร้างโรงงานผลิตฟิล์มถ่ายภาพ ตอนนี้ทยอยล้มหายตายจาก

แต่ธุรกิจการกำจัดศัตรูเคหสถานจะอยู่คู่โลกตราบชั่วกัลปาวสาน.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

ความมั่นคงทางทะเล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/593451

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 21 มี.ค. 2559 05:01

 

พลเรือโท พิเชฐ ตานะเศรษฐ เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ (วปอ.2555) เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ (วปอ.2555) บรรยายพิเศษ “ยุทธศาสตร์เชิงรุกของรัสเซียที่มีต่อประชาคมอาเซียน” รับใช้ข้าราชการ นักศึกษาวิทยาลัยการทัพเรือ นักเรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ และนายทหารนักเรียนหลักสูตรต่างๆของกรมยุทธศึกษาทหารเรือ 477 นาย 09.00-12.00 น. จันทร์วันนี้ ที่ห้องประชุมบริพัตร อาคารสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง จ.นครปฐม

ไม่นานมานี้ กองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งเรือรบเข้าไปใกล้เกาะเทียมในทะเลจีนใต้ที่มีทั้งสนามบินและสถานีเรดาร์ แม้ว่าจะส่งเรือรบเข้าไป แต่รัฐบาลอเมริกันก็ไม่ได้อ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำบริเวณใดในทะเลจีนใต้แต่อย่างใด ข้อความที่อเมริกาประกาศก้องร้องตะโกนก็คือ ข้าพเจ้ามีผลประโยชน์ในการทำให้เกิดความมั่นใจว่าจะต้องมีเสรีภาพในการเดินเรือและในการเดินอากาศ และข้าพเจ้าอเมริกายังต้องการให้มีการแก้ไขข้อพิพาทการช่วงชิงกรรมสิทธิ์น่านน้ำในทะเลจีนใต้อย่างสันติ

การกระทำของกองทัพเรืออเมริกันทำให้จีนโกรธมากครับ จีนโต้ตอบอเมริกาออกมาเป็นระยะ อเมริกาทำเป็นหูทวนลม ในขณะเดียวกัน ก็กระโจนเข้าไปช่วยเหลือฟิลิปปินส์และเวียดนามที่มีปัญหาการแย่งชิงกรรมสิทธิ์น่านน้ำในทะเลจีนใต้กับจีนมากขึ้น

การเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันในวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2559 ถ้านางคลินตันได้เป็นประธานาธิบดี นโยบายของอเมริกาที่มีต่อเอเชียก็ยังคงน่าจะเป็นแบบเดียวกับนโยบายของนายโอบามา เพราะนางคลินตันเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของโอบามามาก่อน และเป็นหนึ่งในผู้วางแผนยุทธศาสตร์ปักหมุดเอเชียให้อเมริกาหันมาให้ความสำคัญกับเอเชีย และต้องการสร้างอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่ในเอเชียอีกครั้งหนึ่ง ทว่าถ้านายโดนัลด์ ทรัมพ์ ได้เป็นประธานาธิบดี ผมว่านโยบายของอเมริกาที่มีต่อเอเชียอาจจะเปลี่ยนไปในด้านที่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหามากขึ้น

สัปดาห์ที่ผ่านมา พลเรือเอก สกอตต์ เอช. สวิฟต์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาคแปซิฟิกของสหรัฐฯ มาประชุมเรื่องความมั่นคงทางทะเลย่านมหาสมุทรอินเดีย–มหาสมุทรแปซิฟิก ที่กรุงแคนเบอร์รา ออสเตรเลีย ในการประชุม พลเรือเอกสวิฟต์พูดตอนหนึ่งว่า ถ้าอเมริกาเข้าน่านน้ำระหว่างประเทศในทะเลจีนใต้ที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์ไม่ได้ อเมริกาจะต้องเจอกับความสูญเสียไม่เฉพาะทางด้านทหารเท่านั้น แต่จะสูญเสียในเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องนี้ก็จะมีผลต่อกฎหมายระหว่างประเทศอย่างมากมายมหาศาล ต่อไปจะไม่มีใครเชื่อถือกฎหมายระหว่างประเทศอีกต่อไปแล้ว

คำพูดของพลเรือเอก สวิฟต์ ทำให้รัฐบาลอเมริกันต้องประเมินท่าทีของตนที่มีต่อปัญหาในทะเลจีนใต้เสียใหม่ ผู้อ่านท่านที่ตามการกระดิกพลิกตัวของจีน ก็คงจะทราบนะครับ ว่าจีนก็แข็ง ไม่ยอมเป็นฝ่ายถอยในปัญหาทะเลจีนใต้ ในอนาคตอาจจะมีปัญหารุนแรงขึ้นมาได้ แถมเวียดนามเองก็สะสมอาวุธเพื่อการนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเครื่องบินรบและเรือดำน้ำที่ซื้อมาจากรัสเซีย

ความขัดแย้งของแท้เกิดขึ้นจริงเมื่อใด ออสเตรเลียก็คงจะกระโจนเข้าข้างอเมริกา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม บรูไน และมาเลเซีย

ปัจจุบัน ออสเตรเลียประชุมความมั่นคงทางทะเลบ่อยมาก นอกจากสนใจความขัดแย้งในทะเลจีนใต้แล้ว ออสเตรเลียยังสนใจนโยบายผลักดันเรือผู้ลี้ภัยออกจากน่านน้ำ

พ.ศ.2551-2556 มีผู้ลี้ภัยที่พยายามล่องเรือหนีจากประเทศตนเองมาขึ้นฝั่งที่ออสเตรเลียจมน้ำตายมากถึง 1,200 คน ในค่ายกักกันมีทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็กบานเบอะเยอะแยะ ต้นเดือนมิถุนายน 2556 มียอดเด็กในค่ายกักกันมีจำนวนมากถึง 2,000 คน

ออสเตรเลียทำทุกทางที่ไม่ให้ผู้ลี้ภัยเข้ามาในดินแดนตัวเองเคยทำถึงขนาดแอบจ่ายสินบนให้ลูกเรืออินโดนีเซีย 6 คน คนละ 5,000 ดอลลาร์ แลกกับการนำผู้ลี้ภัย 65 คน บนเรือลำหนึ่ง ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าฝั่งออสเตรเลีย ให้หันหัวเรือกลับไปยังดินแดนของอินโดนีเซีย

ออสเตรเลียมีปฏิบัติการ Operation Sovereign Borders ตั้งแต่กันยายน 2556 เป็นปฏิบัติการผลักดันเรือและผู้ลี้ภัยออกจากน่านน้ำของตนเอง ถ้าผลักดันให้กลับประเทศเดิมไม่ได้ ก็โน่นครับ ออสเตรเลียให้เรือไปขึ้นฝั่งและเป็นผู้ลี้ภัยไปอยู่ในค่ายกักกันบนเกาะของสาธารณรัฐนาอูรู

ศุกร์ที่แล้ว 18 มีนาคม 2559 ออสเตรเลียฉลองครบ 600 วัน ที่ไม่มีเรือและผู้ลี้ภัยเดินทางมาถึงแผ่นดินของตน

มาตรการการป้องกันคนเข้าประเทศของออสเตรเลียได้ผลสูงครับ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

โบ๊เบ๊มีส่วนสร้างประเทศใหม่ของโลก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/592112

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 18 มี.ค. 2559 05:01

 

ศุกร์วันนี้ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ เป็นวิทยากรในกิจกรรม

ห้องรับแขก เสวนาร่วมกับนักศึกษา หลักสูตร ยธส.7 “กระบวนการยุติธรรมเปรียบเทียบระหว่างไทยกับต่างประเทศ” 13.00-16.00 น. ที่วิทยาลัยกิจการยุติธรรม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา กรุงเทพฯ

เสาร์พรุ่งนี้ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ พูด “เปลี่ยนวิธีคิดการศึกษาไทยสู่การศึกษาโลก : ท้าทายหรือทิศทาง” 09.00-12.00 น. รับใช้นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชา การบริหารการศึกษา คณาจารย์ และบุคคลทั่วไป ที่อาคาร 14 มรภ.นครสวรรค์

1. พ.ศ.2544-2558 มีคณะท่านที่นับถือกันจากตะวันออกกลาง มาอาศัยกินนอนในบ้านเราที่เขตลาดกระบัง มาชักชวนพวกเราให้ไปเยือนสาธารณรัฐเคอร์ดิสถาน เพื่อช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ ให้โลกยอมรับสาธารณรัฐเคอร์ดิสถานซึ่งตั้งขึ้นมานานแล้ว แต่อิรัก ตุรกี อิหร่าน และซีเรีย ไม่ยอมรับและต่อต้าน

เคอร์ดิสถาน แปลว่า แผ่นดินของชาวเคิร์ด ถ้าประเทศนี้ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากนานาประเทศ ก็จะต้องมีปัญหากับ 4 ประเทศ เพราะต้องแยกแผ่นดินของ 4 ประเทศมารวมเป็นประเทศเดียวกัน คือ ภาคตะวันออกของตุรกี ภาคเหนือของอิรัก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิหร่าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย

พื้นที่เหล่านี้ของอิรัก ซีเรีย ตุรกี และอิหร่าน มีชาวเคิร์ดเป็นประชากรหลัก มีวัฒนธรรมแบบชาวเคิร์ด แม้จะอยู่คนละประเทศ แต่ผู้คนพวกนี้ก็พูดจาภาษาเคิร์ดเดียวกัน

แผ่นดินของชาวเคิร์ดที่ใหญ่ที่สุดก็คือ เคอร์ดิสถานอิรัก ที่มีชื่อเต็มๆว่า เขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานแห่งอิรัก มีพื้นที่เท่ากับราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เฉพาะเขตนี้มีพื้นที่ 40,000 ตร.กม. ที่นี่สมบูรณ์มากครับ เพราะมีแม่น้ำผ่านหลายสาย

2. วันอาทิตย์ที่ผ่านมา คนโมร็อกโกออกมาประท้วงนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ตามถนนหนทางหลายแสนคน การประท้วงเกิดจาก นายบัน คี มูน ไปเอ่ยปากว่า อยากจะให้ซาฮาราตะวันตกได้เป็นประเทศเอกราชชาติใหม่

สหประชาชาติพยายามหลายครั้ง ที่จะให้ประชาชนคนในเวสเทิร์นซาฮาราหรือซาฮาราตะวันตก 513,000 คน ได้มีโอกาสลงประชามติว่า อยากจะอยู่กับโมร็อกโกหรืออยากจะแยกตัวออกเป็นประเทศใหม่

ถ้าให้ลงประชามติ พวกนี้ก็อยากจะเป็นประเทศใหม่ซึ่งมีพื้นที่มากถึง 266,000 ตร.กม. แต่ประเทศที่ไม่ยอมก็คือ โมร็อกโก รัฐบาลโมร็อกโกออกมาตะโกนก้องร้องจ๊ากว่า ซาฮารา ตะวันตก เป็นของข้านะเฟ้ย ข้ายึดแผ่นดินนี้ไว้ได้ตั้งแต่ พ.ศ.2518

สหประชาชาติบอกว่า ไม่ถูกต้องที่โมร็อกโกมารุกรานและยึดดินแดนซาฮาราตะวันตก จึงอยากให้ต้องมีการลงประชามติว่า ซาห์ราวี ซึ่งหมายถึง ชาวซาฮาราตะวันตก อยากจะอยู่กับใคร?

ตอนนี้ก็มีองค์กรต่างๆของพวกซาห์ราวี กระดิกพลิกตัวกันแรงเพื่อต้องการความเป็นเอกราช ทั้งกลุ่มที่ใช้การเมืองเป็นเครื่องมือ และที่ใช้กำลังอาวุธ

ที่จริง โลกก็มีสาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวีตั้งแต่ พ.ศ.2519 มีรัฐบาลพลัดถิ่นที่จัดตั้งโดยแนวร่วมโปลีซารีโอเป็นเรื่องเป็นราว มีผู้นำสูงสุดคือ มุฮัมมัด อับดุลอะซีซ ประธานาธิบดี และมีอับดุลกาเดร์ ตาเลบ อูมัร เป็นนายกรัฐมนตรี

3. ครอบครัวผมไปซูดานมาแล้วหลายรอบ สมัยก่อนซูดานเป็นประเทศใหญ่ มีพื้นที่มากกว่าถึง 2.5 ล้าน ตร.กม. (ใหญ่กว่าไทย 5 เท่า) แต่ตอนหลังมีสงครามกลางเมือง ฆ่ากันตายไป 2 ล้านคน พลัดถิ่นอีก 4 ล้านคน ทะเลาะกันไม่เลิก องค์กรระหว่างประเทศจึงต้องส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปดูแล

2548-2553 มีผู้คนที่ผ่านซูดานใต้ แวะมาคุยกับพวกเราที่บ้านลาดกระบังบ่อยๆ เรื่องอยากแยกประเทศ ที่บากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากคนไทย ก็เพราะในสมัยก่อนตอนโน้น ถนนและการก่อสร้างในซูดานใต้ ทำโดยคนไทยทั้งนั้น

สุดท้าย ก็มีการลงประชามติแยกแผ่นดินซูดานใต้ 644,329 ตร.กม. (ใหญ่กว่าไทย) เป็นประเทศเอกราชชาติใหม่ชื่อ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน เมื่อ 9 กรกฎาคม 2554 ส่วนประเทศเดิมชื่อ สาธารณรัฐซูดาน ยังคงมีพื้นที่กว้างขวางถึง 1.88 ล้าน ตร.กม.

ว่ากันว่า ธงชาติสาธารณรัฐเซาท์ซูดานออกแบบที่เมืองไทย

และผลิตกันเป็นครั้งแรกที่ตลาดโบ๊เบ๊ของไทยนี่เองครับ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand