ทูตไทย กรุงวอชิงตัน จัดพิธีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมฯ วันพระราชสมภพ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 ก.ค. 2559 02:10

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/674886

 

ทูตไทย กรุงวอชิงตัน จัดพิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 28 ก.ค. มีคณะสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคลคาถา และผู้นำ 8 ศาสนา ร่วมเจริญจิตภาวนา…



เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559 นายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน และภริยา เป็นประธานในพิธีจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 28 ก.ค. 2559 ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน โดยมีพิธีประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล และพิธีทางศาสนา โดยคณะสงฆ์จากวัดไทยกรุงวอชิงตันดี.ซี. นำโดยพระครูปริยัติธรรมาภิราม เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลคาถา



นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญนักบวชและผู้นำจากอีก 8 ศาสนาความเชื่อ ได้แก่ ฮินดู พุทธมหานิกายจากเกาหลี พุทธเถรวาทจากจีน อิสลามทั้งซุนนีและชีอะห์ คริสต์โปรเตสแตนต์ ยูดาห์และเชน ร่วมเจริญจิตภาวนาถวายเป็นพระราชกุศลและประกาศราชสดุดี และชื่นชมการเป็นอัครศาสนูปถัมภกของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย โดยมีข้าราชการจากส่วนราชการต่างๆ ในกรุงวอชิงตัน ผู้แทนชุมชนไทยในเขตกรุงวอชิงตัน เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และครอบครัว เข้าร่วมพิธี 100 คน



เยาวชนไทย-อเมริกัน ร่วม ‘โครงการมรดกไทยคืนถิ่น’ เข้าพบ ‘บิ๊กตู่’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ก.ค. 2559 22:15

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/667662

 

“โครงการมรดกไทยคืนถิ่น ครั้งที่ 6” นำเยาวชนไทย-อเมริกัน จากสหรัฐอเมริกา แสดงดนตรีไทยและศิลปวัฒนธรรมไทยบนแผ่นดินแม่ ที่โรงละครแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เมื่อเช้าวันที่ 19 กรกฎาคม 2559 ดร.เพลินใจ กุนทีกาญจน์ ประธานสภาวัฒนธรรมไทยในสหรัฐอเมริกาแห่งเมืองเบิร์กลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยถึงการนำ “โครงการมรดกไทยคืนถิ่น ครั้งที่ 6” มาเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 10-17 กรกฎาคม ว่า ปีนี้นับว่าประสบความสำเร็จอีกครั้ง ดังเจตนารมณ์ของคณะกรรมการฯ คณะครูและผู้ปกครอง ที่ต้องการนำเยาวชนไทย-อเมริกัน จากนครซานฟรานซิสโกและใกล้เคียง ที่ได้เรียนภาษาไทย ดนตรีไทย และวัฒนธรรมไทย จากโรงเรียนของวัดมงคลรัตนาราม เมืองเบิร์กลีย์

“ทั้งหมดได้เข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติในปีมหามงคล ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา โดยจัดการแสดงมาร่วมเฉลิมพระเกียรติ และให้คนไทยในประเทศไทยได้ชื่นชมการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของลูกหลานไทยในสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งถือโอกาสนำเยาวชนทัศนศึกษาและบำเพ็ญประโยชน์ในประเทศไทยด้วย โดยการสนับสนุนของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา” ดร.เพลินใจ กล่าว


ดร.เพลินใจ กล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรมสำคัญของโครงการฯ ในปีนี้ ได้แก่ คณะผู้ปกครองและเยาวชนได้ไปร่วมถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวัง จากนั้นได้เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สร้างความปลื้มยินดีแก่เยาวชนและผู้ปกครองเป็นอย่างมาก และไปเยี่ยมชมค่ายสุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี โดยพล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผบ.พล.ร.9 จัดให้ชมกิจกรรมของเหล่าทหารและจัดเลี้ยงต้อนรับ




นอกจากนี้เยาวชนและผู้ปกครองยังได้ไปเยี่ยมชมบ้านศิลปินซอยจรัญสนิทวงศ์ ส่วนกิจกรรมสำคัญของ “โครงการมรดกไทยคืนถิ่น คร้ังที่ 6” ได้แก่ การแสดงละครเรื่อง “ซินเดอเรลลา” ฉบับพิเศษ ณ โรงละครแห่งชาติ เมื่อเย็นวันที่ 17 กรกฎาคม มีการแสดงดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทย และละครเรื่อง ”ซินเดอเรลลา” เปิดให้เข้าชมฟรี และให้ผู้ชมร่วมบริจาคตามศรัทธา เพื่อนำเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือเยาวชนด้อยโอกาสในประเทศไทย





ดร.เพลินใจ กล่าวต่อว่า การจัดแสดงครั้งนี้ ปรากฏว่ามีผู้เข้าชมแน่นขนัดและได้รับเสียงปรบมืออย่างเกรียวกราว ต่างประทับใจในการแสดงของเยาวชนไทยจากสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งชื่นชมผู้ปกครองที่ไม่ลืมศิลปวัฒนธรรมไทย และถ่ายทอดให้ลูกหลานไทยได้เรียนรู้ และมีผู้เข้าชมการแสดงร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเยาวชนที่ด้อยโอกาสในประเทศไทยด้วย


“โครงการปีนี้ที่ประสบความสำเร็จต้องขอขอบคุณ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่ให้ความอนุเคราะห์เรื่องที่พัก พาหนะในช่วงร่วมกิจกรรม และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหาร ที่สำคัญเป็นอย่างย่ิงคือ คณะผู้ปกครองและเยาวชนไทยที่ร่วมโครงการ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ด้วยความตั้งใจที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้” ดร.เพลินใจ กล่าว.

 

ชาวใต้ในซิดนีย์จัดงาน ‘สะตอไนท์ 2016’ หารายได้ให้ร.ร.สอนภาษาไทย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ก.ค. 2559 01:55

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/661327

 

ชาวปักษ์ใต้ในนครซิดนีย์จัดงาน สะตอไนท์ 2016 เพื่อเผยแพร่ประเพณีของชาวปักษ์ใต้ให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ รวมทั้งยังมีเป้าหมายในการหารายได้ไปมอบให้โรงเรียนสอนภาษาไทยในซิดนีย์อีกด้วย…

นายประสิทธิ์ นิเวศน์ทอง ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำนครซิดนีย์ รายงานเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ว่า ชาวใต้ในซิดนีย์รวมใจสามัคคี จัดงาน “สะตอไนท์” หารายได้ไปมอบให้โรงเรียนสอนภาษาไทยในซิดนีย์ โดย นายเฉลียว ทองศรีนุ่น นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้แห่งออสเตรเลีย ได้ประชุมกรรมการสมาคมฯ ที่ร้านเกสร ซิดนีย์ ถึงความคืบหน้าในการจัดงาน “สะตอไนท์ 2016” ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ค. ที่ RSL Paddington ซึ่งงานนี้ถือเป็นงานประเพณีสำคัญอีกงานของชาวปักษ์ใต้ในออสเตรเลีย ที่จัดติดต่อมาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว

นายเฉลียว กล่าวว่า งานสะตอไนท์ สมาคมจัดขึ้นปีนี้เป็นครั้งที่ 6 โดย 2 ปีจะจัด 1 ครั้ง ซึ่งแต่ละปี สมาคมจะจัดงานใหญ่ๆ 2 งานด้วยกัน คือ ‘งานวันสารทเดือนสิบ’ ที่เป็นประเพณีของชาวใต้ในเมืองไทย แต่เราก็มาจัดขึ้นที่นครซิดนีย์ด้วย เพื่อเป็นการเผยแพร่และสืบสานประเพณีของชาวปักษ์ใต้ ให้คนไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในออสเตร เลียได้รับรู้ โดยจะจัดงานเหมือนกับที่เมืองไทยทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการชักพระ ชิงเปรต ทำขนมลา อีกงานคืองาน ‘สะตอไนท์’ ซึ่งงานนี้เหมือนกับเป็นงานวัฒนธรรมของชาวใต้ในออสเตรเลียที่จะมารวมตัวกันสร้างสิ่งต่างๆ ให้เกิดความรักสามัคคีกันในกลุ่มคนใต้ และให้ชาวภาคอื่นในซิดนีย์ได้รับรู้วัฒนธรรมที่แท้จริงของชาวใต้ ที่ยังคงดำรงไว้อย่างเหนียวแน่น โดยในงานจะมีการแสดงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรำมโนราห์ ดนตรี ร้องเพลง รวมถึงศิลปะของปักษ์ใต้ อาทิ การเชิดหนังตะลุง รวมทั้งมีอาหารใต้ให้ได้ชิมรสชาติแท้ๆ กันอย่างเต็มที่


นายเฉลียว ยังกล่าวอีกว่า “สำหรับปีนี้มีศิลปินดนตรีเพื่อชีวิตชื่อดังของเมืองไทย คือวง “มาลีฮวนน่า” เต็มวง เดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตในงาน ให้พวกเราชาวใต้ได้ชมและสนุกสนานกัน โดยไม่คิดค่าตัวแม้แต่สตางค์แดงเดียว มี อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี มาเป็นแขกรับเชิญในงานด้วยและไม่คิดค่าตัวเช่นกัน ทำให้พวกเราดีใจมากที่คนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือกับพวกเราชาวใต้ในออสเตรเลีย นี่คือสิ่งที่คนมักจะพูดว่าคนใต้รักพวกพ้องและช่วยเหลือกันเสมอ จริงๆ แล้วคนภาคอื่นก็รักกันเหมือนกัน เราก็อยากให้ทุกภาคเป็นแบบนี้ แม้ว่าบางครั้งเรามีการถกเถียงทะเลาะกันบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ แต่สุดท้ายก็กลับมาช่วยเหลือกัน”

นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ กล่าวอีกว่า “เมื่อเรามาอยู่ต่างแดน เราคนไทยต่างบ้านต่างเมืองมา ควรรักใคร่สามัคคีกลมเกลียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคนภาคไหนก็แล้วแต่ จึงอยากเชิญทุกคนมาร่วมงานเพื่อกระชับสัมพันธ์ระหว่างคนภาคใต้กับภาคอื่นๆ ด้วย ทุกคนจะได้มีเพื่อนใหม่ๆ อบอุ่นเหมือนอยู่เมืองไทยบ้านเรา”


งานสะตอไนท์ตอนนี้ กระแสตอบรับดีมาก เหลือแต่โต๊ะเสริม โดยงานได้จัดแบ่งงานออกเป็น 2 วัน วันแรกมีคอนเสิร์ต ที่โรงแรม Shark Hotel Pitt st. วันศุกร์ที่ 22 ก.ค. จำหน่ายบัตรในราคา $40 เปิดให้เข้าชมในเวลา 4 ทุ่มเป็นต้นไป อีก 1 วันคือวันที่ 24 ก.ค. ที่จัดสองวันเนื่องจากเมื่อมีโอกาสที่ศิลปินระดับประเทศ เดินทางมาแสดงถึงซิดนีย์แล้ว ส่วนหนึ่งก็อยากจะหารายได้จากการจัดงาน มอบให้กับโรงเรียนสอนภาษาไทยพุทธรังษี สแตนมอร์ และศูนย์สอนภาษาไทยอีกแห่งหนึ่งในซิดนีย์ โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งจะนำมาบริหารสมาคมต่อไป คนที่มาดูคอนเสิร์ตก็จะได้บุญไปด้วย จึงอยากเชิญชวนพี่น้องชาวใต้และทุกภาคมาชมคอนเสิร์ตร่วมกัน โดยงานวันที่ 22 ก.ค. สามารถซื้อบัตรได้ที่ร้านเกสร ร้าน ณ บางกอก และร้านถนนข้าวสาร สุดท้ายต้องขอขอบคุณ “ไทยรัฐ” ที่ช่วยสนับสนุนเผยแพร่ข่าวงานนี้มาโดยตลอด

 

ไทยเฮ! มะกันเผยรายงานค้ามนุษย์ 2559 ปรับไทยอยู่ ‘เทียร์2’ เฝ้าระวัง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 มิ.ย. 2559 22:10

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/651822

 

สหรัฐฯ เผยแพร่รายงานการค้ามนุษย์ประจำปี พ.ศ. 2559 แล้ว โดยปรับระดับของประเทศไทยขึ้นไปอยู่เทียร์ 2 กลุ่มประเทศที่ต้องจับตามอง โดยยอมรับความพยายามในการแก้ปัญหาของไทย แต่ยังไม่เพียงพอ…

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงออกรายงานการค้ามนุษย์ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559 โดยประเทศไทยได้เลื่อนอันดับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มที่ 2 (เทียร์ 2) บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง รายงานการค้ามนุษย์ประจำปี พ.ศ. 2559 (Trafficking In Persons (TIP) Report 2016) โดยครอบคลุมความพยายามดำเนินการของรัฐบาลต่างๆ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

ทิป รีพอร์ต ระบุว่า การดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของรัฐบาลไทยยังไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำสุดอย่างครบถ้วน ทว่า รัฐบาลไทยได้ดำเนินความพยายามอย่างมีนัยสำคัญในการขจัดการค้ามนุษย์ รัฐบาลไทยได้แก้พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้แรงงานในอุตสาหกรรมประมงและอาหารทะเล เพื่อเพิ่มบทลงโทษทั้งทางอาญาและทางแพ่งแก่ผู้ค้ามนุษย์, อนุญาตให้มีการปิดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้แรงงาน และมีกฎหมายสำหรับปกป้องผู้เปิดโปงการกระทำผิด

ในปี พ.ศ. 2558 รัฐบาลไทยยังเพิ่มความพยายามในการสืบสวน, ดำเนินคดี, พิพากษาลงโทษ และระบุตัวเหยื่อผู้เสียหายมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2557 ทว่าการบังคับใช้แรงงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลยังคงเกิดขึ้น และแม้รัฐบาลจะเพิ่มความพยายามจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐผู้สมรู้ร่วมคิดกับการค้ามนุษย์ ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ที่สมรู้ร่วมคิดที่ยังคงขัดขวางกระบวนการต่อสู้กับการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลไทยยังไม่มีทางเลือกที่ถูกกฎหมายให้แก่เหยื่อการค้ามนุษย์ ที่ต้องเผชิญกับบทลงโทษหรือความยากลำบากระหว่างการเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด

สหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการให้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ตามกรอบคำแนะนำในรายงานการค้ามนุษย์ประจำปี พ.ศ. 2559 รัฐบาลสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยในการแก้ไขปัญหาสำคัญนี้

อ่านคำแถลงของสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เรื่องรายงานการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2559 (ภาษาไทย) ที่นี่

 

 

ไทยได้เฮ! สหรัฐฯปรับระดับ‘ค้ามนุษย์’ไทย ปีนี้ ดีขึ้น มาอยู่ ‘เทียร์2’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 มิ.ย. 2559 11:21

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/650307

 

รัฐบาลไทยไม่เหนื่อยเปล่า…สื่อต่างประเทศ เผย กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯปรับระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศไทยปี 59 ดีขึ้น จาก ‘เทียร์ 3’ ต่ำสุด มาอยู่ที่ ‘เทียร์ 2’ ถือเป็นความสำเร็จในความพยายามทลายเครือข่ายค้ามนุษย์

เมื่อ 29 มิ.ย. สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯว่า กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ปรับระดับสถานการณ์ค้ามนุษย์ในไทยดีขึ้น จากระดับเทียร์ 3 (Tier3) ต่ำสุด มาอยู่ขั้น ‘เทียร์ 2 ’แล้ว ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในความพยายามของรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทย ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลลาร์สหรัฐฯ จนไทย นับเป็นประเทศที่มีการส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก

รอยเตอร์ชี้ว่า การที่ประเทศไทยได้ถูกเลื่อนขั้น จากระดับเทียร์ 3 เมื่อปี 2558 มาอยู่ในขั้น ‘เทียร์ 2 เฝ้าระวัง’ ในปีนี้ เนื่องจากมีการปฏิรูปแก้ไขกฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์ และยังมีการใช้ระบบติดตามเรือประมงในทะเล ซึ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการ ‘ครอบคลุมและไม่สามารถย้อนกลับมาได้’ ในการกวาดล้างระบบเครือข่ายค้ามนุษย์และการทำประมงโดยผิดกฎหมาย

ด้านนายจอห์น เคอร์บีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงการเลื่อนขั้น การค้ามนุษย์ในไทยขึ้นมาอยู่ที่ เทียร์ 2 จนกว่ารายงานสถานการณ์ค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ (TIP) หรือทิป รีพอร์ต ประจำปี 2559 จะเผยแพร่ต่อสาธารณชนในวันพฤหัสบดีที่ 30 มิ.ย. นี้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมียนมางานเข้า! โดนสหรัฐฯลดระดับสถานการณ์ค้ามนุษย์ อยู่เทียร์ 3 ต่ำสุด

 

ไทยพ่ายโหวตคาซัคฯ อดเป็นสมาชิกไม่ถาวรคณะมนตรีความมั่นคง UN

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 มิ.ย. 2559 05:30

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/650046

 

ไทยอดเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หลังแพ้ในการโหวตให้แก่ประเทศคาซัคสถานอย่างขาดลอย ที่การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) 193 ประเทศ โหวตเลือกประเทศที่จะเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) จำนวน 5 ประเทศ โดยในการโหวตรอบแรกประเทศที่ได้รับเลือกคือ โบลิเวีย, เอธิโอเปีย และสวีเดน

ไทยกับคาซัคสถานต้องมาชิงโควตาประเทศจากเอเชียในการโหวตรอบที่ 2 ซึ่งผลปรากฏว่า คาซัคสถานชนะขาดลอยด้วยคะแนนโหวต 138 เสียงต่อ 55 เสียง ได้เป็นสมาชิกไม่ถาวรของยูเอ็นเอสซีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1991

ขณะนี้เหลือเพียงอิตาลีและเนเธอร์แลนด์ ที่กำลังแย่งชิงเก้าอี้โควตายุโรป แต่หลังจากโหวตไป 5 รอบ ก็ยังไม่มีฝ่ายใดได้คะแนนเสียงข้างมาก โดยได้คะแนนโหวตที่ 95 เสียงทั้งคู่ และยังไม่รู้ว่าต้องโหวตกันกี่รอบจึงจะได้ผู้ชนะ

ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประกอบด้วยชาติสมาชิกถาวร 5 ประเทศ ได้แก่ จีน, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา กับชาติสมาชิกไม่ถาวรอีก 10 ประเทศ ซี่งชาติสมาชิกไม่ถาวรมีวาระดำรงตำแหน่งวาระละ 2 ปี โดยจะเลือกใหม่ปีละ 5 ประเทศ และเริ่มวาระในวันที่ 1 ม.ค.

เมื่อปี 1979 ประเทศโคลอมเบียกับคิวบาก็ชิงชัยในการโหวตกันถึง 154 รอบก็ยังไม่ได้ผู้ชนะ จนกระทั่งในครั้งที่ 155 ยูเอ็นจีเอก็โหวตเลือกเม็กซิโก ในฐานะผู้สมัครประนีประนอม (compromise candidate)

 

นายกเทศมนตรีนครซิดนีย์ พบปะคนไทยในซิดนีย์ ทางการครั้งแรก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 มิ.ย. 2559 03:57

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/650016

 

ชุมชนชาวไทยในนครซิดนีย์ปลื้ม กับการเดินทางมาพบปะชุมชนไทย ย่านไทยทาวน์ ถนน Campbell ครั้งแรกของนาง Clover Moore นายกเทศมนตรีนครซิดนีย์ ตามคำเชิญของหนังสือพิมพ์ THAI TOWN NEWS และชุมชนชาวไทยในนครซิดนีย์

เมื่อค่ำวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา ชุมชนไทยในนครซิดนีย์ ได้มีการเปิดป้ายไทยทาวน์อย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดตัวมาแล้วกว่า 2 ปี  ในครั้งนี้ นาง Clover Moore นายกเทศมนตรีนครซิดนีย์ ได้เดินทางมาร่วมงานด้วยตามคำเชิญ ในย่านไทยทาวน์  โดยเวลาประมาณ 18.30 น. ท่ามกลางการต้อนรับของตัวแทนชุมชนชาวไทยในนครซิดนีย์และผู้ประกอบการร้านค้าในย่านไทยทาวน์ ทีมประเทศไทย นำโดยนายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล รองกงสุล นายธราพงษ์ วาระสิทธิ์ เจ้าของหนังสือพิมพ์ THAI TOWN NEWS และเจ้าของร้าน Siam House


ภายหลังการต้อนรับและร่วมบันทึกภาพประวัติศาสตร์กับชุมชนชาวไทยแล้ว นาง Clover Moore ได้เดินเยี่ยมชุมชนและร้านค้าต่างๆ ในย่านไทยทาวน์ เริ่มจากต้นถนน Campbell คือร้าน Siam House ร้าน Porntip (พรทิพย์) ร้าน Mae Cheng (แม่เช็ง) ร้าน Chat Thai (ชาติไทย) จากนั้นได้เลี้ยวซ้ายไปเยี่ยมชมร้านค้าของชาวไทย อาทิ ร้านถนนข้าวสาร ร้านกินเส้น ฯลฯ โดยนาง Clover Moore ได้พูดคุยสอบถามกับนายณัฐพลและนายธราพงษ์ ถึงการประกอบธุรกิจในย่านนี้ของชุมชนชาวไทย ก่อนจะเดินกลับมายังร้าน Siam House เพื่อรับประทานอาหารค่ำร่วมกับตัวแทนชุมชนชาวไทย


นายณัฐพล ได้กล่าวต้อนรับ  นางโคลเวอร์ มัวร์ ว่า ชาวไทยในนครซิดนีย์มีความยินดีที่นางโคลเวอร์ มัวร์ ให้เกียรติมาร่วมรับประทานอาหารและพบปะกับชาวไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้

จากนั้นนางโคลเวอร์ มัวร์ ได้กล่าวว่า ดีใจมากและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาส มาร่วมรับประทานอาหารกับตัวแทนชุมชนชาวไทย ซึ่งตนอยู่ในพื้นที่นี้และมีชาวไทยให้เกียรติเชิญมา ทำให้รู้สึกยินดีมาก ก่อนหน้านี้เคยมาเปิดป้ายชุมชนไทยทาวน์ เมื่อเกือบ 3 ปีก่อน การมาพบกับชุมชนไทยในครั้งนี้ ทำให้เห็นว่าชุมชนไทยในนครซิดนีย์ มีการเจริญเติบโตและก้าวหน้าอย่างมาก มีการรวมตัวกันมากขึ้น


“จากเดิมเคยมีร้านอาหารไทย 60-70 ร้าน ปัจจุบันมีถึงเกือบ 700 ร้านในย่านนี้ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่นๆ ของคนไทยอีกหลายอย่าง ที่น่ายินดี สำหรับนครซิดนีย์เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีชนชาติอื่นๆ อยู่รวมกันถึงกว่า 200 ชาติ และคนไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้มารวมตัวกันอยู่ในย่านนี้ ที่เรียกว่าไทยทาวน์ ซึ่งเป็นแห่งที่ 2 ของโลก ตนได้ให้ความสนใจชุมชนไทยในจุดนี้ด้วยและถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้รู้จักกับชุมชนไทยอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น” นางโคลเวอร์ มัวร์ กล่าว


ต่อมา นายเฉลียว ทองศรีนุ่น เจ้าของร้านเกสร ได้ทำหน้าที่ตัวแทนชุมชนไทย กล่าวว่า ดีใจที่รัฐบาลออสเตรเลีย ยอมรับและเห็นคุณค่า เข้ามาพบปะกลุ่มชุมชนของไทยเป็นครั้งแรก พวกเรามีความปรารถนาว่าต่อไปในอนาคต หากมีการจัดงานหรือจัดกิจกรรมใดๆ ของคนไทย ก็อยากจะขอใช้พื้นที่ในย่านไทยทาวน์จัดขึ้น โดยขอให้ทางเทศบาลนครซิดนีย์อำนวยความสะดวกเหมือนเช่นย่านไชน่าทาวน์ ใกล้กับย่านไทยทาวน์ทำได้


จากนั้น นายธราพงษ์ วาระสิทธิ์ เจ้าของหนังสือพิมพ์ THAI TOWN NEWS ได้มอบของที่ระลึกแก่นางโคลเวอร์ มัวร์ เป็นรูปนางโคลเวอร์ มัวร์ ถ่ายภาพกับชุมชนชาวไทยหลังเดินทางมาถึงร้าน Siam House สร้างความเซอร์ไพรส์แก่นางโคลเวอร์ มัวร์ อย่างยิ่ง










คนไทยในต่างแดน จัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 มิ.ย. 2559 04:45

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/635623

 

ใต้ภาพ : นายพรชัย ด่านวิวัฒน์ ออท.ณ กรุงพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ นำข้าราชการและชาวไทย ร่วมพิธีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่ี่ทำเนียบเอกอัครราชทูต

กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น, นครโฮจิมินห์ เวียดนาม และข้าราชการ-ประชาชนไทย ถวายความจงรักภักดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี โดยการร่วมสวดมนต์ ถวายพระพรเป็นพระราชกุศลนำโดยเอกอัครราชทูตแต่ละประเทศ


นายบรรสาน บุนนาค ออท.ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นำข้าราชการและชาวบ้าน ร่วมสวดมนต์ถวายพระพรชัยมงคล

เมื่อเวลา 09.00 น. นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้เป็นประธานในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี รวมทั้งพิธีทำบุญตักบาตรและเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล โดยพระสงฆ์จากวัดต่างๆ ในกรุงโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ หอประชุม สถานเอกอัครราชทูต กรุงโตเกียว ทั้งนี้ได้มี นางยุพดี บรรสาน ภริยาเอกอัครราชทูตฯ ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ ข้าราชการทีมประเทศไทย ณ กรุงโตเกียว และชุมชนชาวไทยในญี่ปุ่น เข้าร่วมพิธีจำนวนกว่า 100 คน ในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เปิดโอกาสประชาชนชาวไทยร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย


ข้าราชการและชาวไทยในกรุงโตเกียว รวมพลังจิตร่วมสวดมนต์ถวายพระพรชัยมงคล

ชาวไทยในเวียดนามร่วมเฉลิมพระเกียรติ ณ ประเทศเวียดนาม ในช่วงเย็นชาวไทยในนครโฮจิมินห์และจังหวัดทางภาคใต้ของเวียดนามประมาณ 100 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคลและเจริญจิตภาวนาเนื่องในโอกาสมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี ณ สถานกงสุลใหญ่ นครโฮจิมินห์ โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ เปิดให้ลงนามถวายพระพรชัยมงคล และชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ


นางอุรีรัชต์ รัตนพฤกษ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม นำสวดมนต์ถวายพระพร ที่สถานกงสุล

จนกระท่ังเวลา 17.45 น. นางอุรีรัชต์ รัตนพฤกษ์ กงสุลใหญ่ เป็นประธานในพิธี นำกล่าวถวายพระพรชัยมงคล และชุมชนไทยได้ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีดังกึกก้องไปทั่วบริเวณท่ามกลางความปลื้มปีติของทุกคน จากนั้นพระครูใบฎีกาธาตรี พระธรรมทูตไทยจากวัดพุทธเกษร จ.บ่าเหรียะหวุงเต่า ได้นำสวดมนต์ถวายพระพรชัยมงคลและเจริญจิตภาวนา พร้อมทั้งสวดบทสัตตะติวัสสะรัชชะกาละวะระทานะคา­ถา ซึ่งเถรสมาคมได้แต่งขึ้นเป็นพิเศษด้วย หลังจากเสร็จสิ้นพิธี ชุมชนไทยได้พบปะสังสรรค์กัน และร่วมรับประทานอาหารค่ำที่สถานกงสุลใหญ่ฯ จัดเลี้ยงรับรองข้าราชการ


ชาวไทยในนครโฮจิมินห์และใกล้เคียง ร่วมเจริญจิตภาวนาถวายเป็นพระราชกุศล

ชาวไทยในแอฟริกาใต้รวมใจถวายพระพร ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย ได้จัดพิธีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ในช่วงเย็น โดยมีนายพรชัย ด่านวิวัฒน์ เอกอัครราชทูต เป็นประธานในพิธี มีข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต พร้อมด้วยข้าราชการหน่วยงานทีมประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนชาวไทยในประเทศแอฟริกาใต้เข้าร่วมงาน ทางสถานเอกอัครราชทูตเปิดให้ลงนามถวายพระพร จากนั้นนายพรชัย เอกอัครราชทูต นำกล่าวถวายพระพร ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและสดุดีมหาราชา พร้อมทั้งร่วมสวดมนต์ถวายพระพรชัยมงคล และเจริญจิตภาวนาถวายเป็นพระราชกุศล.

 

กงสุลซิดนีย์ จัดพิธีถวายพระพร’ในหลวง’ครองราชย์ ครบ70 ปี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 มิ.ย. 2559 22:51

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/635526

 

กงสุลซิดนีย์ ออสเตรเลีย ถวายความจงรักภักดี จัดพิธีถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงครองราชย์ ครบ 70 ปี

นายประสิทธิ์ นิเวศน์ทอง ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำออสเตรเลีย รายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน 2559 ตรงกับเวลา 15.00 น. ในไทย นายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่และหัวหน้าสำนักงานไทยในนครซิดนีย์ ได้จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคล วันเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ห้องโถงสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ เลขที่ 131 ถนน Macquarie St.

โดยมีผู้แทนสมาคมไทย ต่างๆ โรงเรียนภาษาไทย รวมทั้งสื่อมวลชนไทยในนครซิดนีย์ เข้าร่วมงาน หลังจากกงสุลใหญ่ฯ ได้เปิดกรวยสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์ แล้ว ได้นำผู้เข้าร่วมพิธีกล่าวถวายพระพร และปฏิญาณตนเป็นคนดี ก่อนทั้งหมดจะร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและสดุดีมหาราชา พร้อมเพรียงกัน




สอท. ณ กรุงเวียนนา จัด ‘เทศกาลผลไม้ไทย’ ต่างชาติชื่นชอบ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/632644

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 มิ.ย. 2559 03:25

 

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จัดงาน “เทศกาลผลไม้ไทย ณ กรุงเวียนนา” เผยแพร่ผลไม้ อาหาร สินค้า และวัฒนธรรมไทย ชาวต่าวชาติชื่นชอบซื้อกลับบ้านกันจำนวนมาก เอกอัครราช ทูต ณ กรุงเวียนนา เผยงานประสบความสำเร็จ มีคนเข้าชมมงานกว่า 5,000 คน

ชาวต่างชาติสนใจผลไม้ไทย

นายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เปิดเผยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2559 ว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ได้จัดงาน“เทศกาลผลไม้ไทย ณ กรุงเวียนนา” ระหว่างวันที่ 29–30 พ.ค. 2559 ที่ผ่านมา ณ บริเวณระเบียงของอาคารคูร์ซาลอน ติดกับสวนสาธารณะสตัดต์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเวียนนา กิจกรรมภายในงานจะประกอบด้วย การออกร้านจำหน่ายผลไม้ไทย ขนมไทย ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป และสินค้าจากประเทศไทยโดยชุมชนชาวไทยในกรุงเวียนนา รวม 11 ร้าน รวมทั้งมีการสาธิตการแกะสลักผลไม้ไทย ตลอดทั้ง 2 วันของการจัดงาน มีผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศประมาณ 5,000 คน

มังคุด และมะม่วงขายดี

“การจัดงานนับว่าประสบความสำเร็จ มีชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจอาหาร ขนม สินค้า และผลไม้ไทย ซื้อกลับไปรับประทานต่อที่บ้านจำนวนมาก ส่วนการแสดงด้านวัฒนธรรมก็เป็นที่ชื่นชอบเช่นกัน ทุกคนประทับใจได้ชมนาฏศิลป์ไทยที่แสดงได้อย่างสวยงาม” นายอรรถยุทธ์ กล่าว

การสาธิตแกะสลักผลไม้ไทย เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ

นอกจากนี้ ช่วงเย็นวันที่ 30 พ.ค. 2559 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ได้จัดงาน “Thai Cultural Night” ที่สเตราส์ ฮอลล์ อาคารคูร์ซาลอน เป็นการบูรณาการ ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม และสถานเอกอัครราชทูตในกลุ่มประเทศ Visegrád 4 เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอันงดงามของไทยในต่างประเทศ และร่วมเฉลิมฉลองวโรกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิ.ย. 2559 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญคณะทูตานุทูต บุคคลระดับสูงของภาครัฐและเอกชนออสเตรีย ผู้นำเข้าผลไม้ ตลอดจนร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ชุมชนชาวไทยในออสเตรีย เข้าร่วมงานกว่า 200 คน มีการเผยแพร่อาหาร ผลไม้ไทยและขนมไทยไทยภายในงาน เป็นที่ตื่นตาตื่นใจและชื่นชอบของผู้เข้าร่วมงาน

นายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร ออท. ณ กรุงเวียนนา ถ่ายภาพกับแม่ค้าขนมไทย

ส่วนกิจกรรมด้านวัฒนธรรมภายในงาน ที่สร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย 1.การแสดงหุ่นละครเล็กของคณะสาครหุ่นละครเล็ก ตอนหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา 2. การแสดงนาฎศิลป์และดนตรีไทยจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 6 ชุด ประกอบด้วย รำซัดชาตรี การแสดงโขนชุดจับนางสุพรรณมัจฉา ระบำอัปสรบวรสุทธาวาส รำมวยโบราณ ระบำกินรีร่อนออกมโนราห์บูชายัญ เซิ้งกะโป๋ และการแสดงชุดฟิลาเล่ ความสัมพันธ์ ไทย-ออสเตรีย และ 3. การสาธิตการวาดหัวโขน การเขียนลายรดน้ำ และการประดับมุขจากคณะช่างหัตถศิลป์ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร.

ชาวต่าวชาติ เลือกซื้ออาหารและผลไม้ไทยคึกคัก

รำชุดอัปสรบวรสุทธาวาส สวยงาม

คณะสาครหุ่นละครเล็ก แสดงได้ตื่นตาตื่นใจผู้ชม

การแสดงชุดความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรีย

ออท.อรรถยุทธ์ ถ่ายภาพร่วมกับผู้แสดงปิดท้ายงาน