กกต. จัดสาธิต ลงทะเบียนเลือกตั้งออนไลน์ คนไทยในต่างแดนที่ซิดนีย์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/627978

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ค. 2559 23:55

 

กกต.สาธิตการลงทะเบียนเลือกตั้งออนไลน์ สำหรับคนไทยในต่างประเทศ ที่นครซิดนีย์ พร้อมจัดทำแอพพลิเคชั่น “ดาวเหนือ” อำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งของตัวเอง…

นายประสิทธิ์ นิเวศน์ทอง ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย รายงานเมื่อ วันที่ 29 พ.ค. เมื่อเวลา 11.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่ ร้าน Siam House ย่าน Thai Town นครซิดนีย์ นายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ พร้อมด้วยสื่อมวลชนไทยในซิดนีย์ ให้การต้อนรับ นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล ผอ.สำนักบริหารการเลือกตั้ง พร้อมด้วยคณะผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งและหน่วยราชการไทย และนายดำรง พุฒตาล อดีต สว. ที่เดินทางมาประเทศออสเตรเลีย เข้าพบ กกต. ออสเตรเลีย และ กกต.รัฐนิว เซาท์เวลส์ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาการอำนวยความสะดวกและเข้าถึงการลงคะแนน รวมถึงการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร พร้อมรับฟังบรรยายสรุปประสบการณ์ของออสเตรเลีย ในเรื่อง iVote ที่เปิดให้ประชาชนในรัฐได้ลงคะแนนเลือกตั้งออนไลน์ในการเลือกตั้งภายในรัฐ เมื่อปีที่ผ่านมา และได้มาจัดทดสอบระบบการลงทะเบียนออนไลน์สำหรับคนไทยในต่างประเทศ ให้สื่อมวลชนและประชาชนได้ทราบถึงขั้นตอนการลงทะเบียนเลือกตั้งออนไลน์นอก ราชอาณาจักร ก่อนจะมีการนำไปใช้จริง

นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล ผอ.สำนักบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า ที่มาในครั้งนี้ได้ไปเดินทางไปสองแห่งคือ ที่แคนเบอร์รา และซิดนีย์ เพื่อติดตามการทดลองใช้ระบบการลงทะเบียนเลือกตั้งออนไลน์ ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงนอกราชอาณาจักร ครั้งนี้เป็นการทดลองเพื่อเตรียมจะนำไปใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมีขึ้นในประเทศไทย ผลที่ออกมาค่อนข้างน่าพอใจ พี่น้องชาวไทยที่อยู่ที่นี่ให้ความสนใจและให้ข้อมูลที่จะได้นำไปปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็นตัวข้อมูลสำหรับการบันทึกข้อมูลในเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้นเป็นต้น

นายณัฏฐ์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ได้มีการให้สื่อมวลชน และประชาชนที่อยู่ในซิดนีย์ได้ทดสอบลงทะเบียนออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ http://www.khonthai.com/election ทั้งแบบที่ให้ลงทะเบียนด้วยตัวเอง และแบบที่มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำ เพื่อให้ทราบว่า หากลงทะเบียนเองประชาชนจะสามารถดำเนินการเองได้หรือไม่ และมีความเข้าใจมากน้อยเพียงใด พร้อมทั้งให้สื่อและประชาชนที่มาทดสอบในวันนี้ ได้กรอกแบบประเมินเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไป

“สิ่งที่ต้องใช้ในการลงทะเบียนออนไลน์ ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักรคือ บัตรประจำตัวประชาชน กับพาสปอร์ต เพราะต้องกรอกหมายเลขที่ระบุอยู่ในบัตรและพาสปอร์ตลงไป จึงจะสามารถลงทะเบียนได้ สำหรับผู้ที่ทำบัตรประชาชน หรือพาสปอร์ตหาย หรือหมดอายุ สามารถไปทำใหม่ได้ที่สถานกงสุลใหญ่ นครซิดนีย์ ซึ่งการทำบัตรประชาชนใช้เวลาเพียงไม่ถึง 15 นาที ก็ได้บัตรใบใหม่ทันที ส่วนพาสปอร์ตจะต้องจะใช้เวลารอสักหน่อย แต่ไม่ยุ่งยาก สถานกงสุลฯ พร้อมให้บริการทุกคนอยู่แล้ว จึงขอเชิญชวนพี่น้องที่อยู่ที่ซิดนีย์หรือในออสเตรเลีย เมื่อถึงเวลาจะลงทะเบียนก็ขอให้มาลงทะเบียน และใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้มากที่สุด

นอกจากนี้ กกต.ยังจัดทำแอพพลิเคชั่น “ดาวเหนือ” เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่จะสามารถทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยเลือกตั้ง ที่ตั้งหน่วย ลำดับการใช้สิทธิ์ และแผนที่นำทางไปยังหน่วยเลือกตั้งที่บุคคลนั้นมีสิทธิ์ ได้อย่างง่ายดาย ทั้งระบบ ios และ android อีกด้วย” นายณัฏฐ์ กล่าว

ด้าน นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล รองกงสุลใหญ่ นครซิดนีย์ กล่าวว่า คณะ กกต.ที่มา ได้มาพบกับชุมชนชาวไทยในซิดนีย์ ในส่วนของสถานกงสุลฯ ก็จะได้ประโยชน์ในแง่ที่ได้มาช่วยดูแลระบบการลงทะเบียนเลือกตั้ง ได้มาพูดคุยถึงปัญหาในการเลือกตั้งในอนาคต และจะได้ช่วยกันสร้างความตื่นตัวให้กับคนไทยที่นี่ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก และได้นำระบบใหม่ๆ ที่ประเทศไทยจะนำมาใช้ในอนาคต มาให้คนไทยในซิดนีย์ได้รับทราบ

นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า ที่ กกต.มาทดลองให้ดูในวันนี้คือ การลงทะเบียนเลือกตั้งออนไลน์สำหรับคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ อันนี้ถือว่าเป็นการทดสอบ เรียกว่าเป็นการลงทะเบียน ไม่ใช่การเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งนั้นยังคงเป็นแบบเดิมในปัจจุบัน ที่จะต้องมาเลือกตั้งยังสถานที่จัดเตรียมไว้ และทางไปรษณีย์ ส่วนระบบลงทะเบียนออนไลน์ที่เราพูดถึงกันขณะนี้คือ อดีตจะต้องมากรอกแบบฟอร์ม แล้วเอาฟอร์มมายื่นกับทางราชการ เพื่อให้ทางราชการลงทะเบียนให้ แต่ด้วยระบบนี้ ทุกคนจะสามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง และสามารถตัวสอบสิทธิ์ของตัวเองได้ว่า ชื่อของเราอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ไหน เมื่อถึงเวลาใช้งานจริงความสะดวกก็จะเกิดกับสถานกงสุลด้วย เราก็จะสามารถปริ้นท์รายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในรัฐนิวเซาท์เวลส์ออกมาได้ทันที ถือเป็นความสะดวกที่เรานำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการปรับปรุงระบบการเลือกตั้งในอนาคต.

ไทยติด 3 อันดับบ๊วย ไม่ยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/622977

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 20 พ.ค. 2559 01:40

 

(ภาพ: AFP)

ผลการสำรวจ “ดัชนีต้อนรับผู้ลี้ภัย” ขององค์กร “แอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล” (เอไอ) จัดทำโดยบริษัทที่ปรึกษา “โกลบสแกน” สุ่มถามประชาชนกว่า 27,000 คนใน 27 ประเทศ เผยแพร่เมื่อ 19 พ.ค.ระบุว่า ชาวโลกส่วนใหญ่ถึง 80% ยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัยเข้าสู่ประเทศของตน โดยชาวจีน เยอรมนี อังกฤษ ต้อนรับผู้ลี้ภัยมากที่สุด ขณะที่ชาวรัสเซีย อินโดนีเซีย และไทย ต้อนรับน้อยที่สุด

การสำรวจถามผู้คนว่ายินดีต้อนรับผู้ลี้ภัยเข้าสู่บ้าน ชุมชน หมู่บ้าน เมือง และประเทศของตนหรือไม่ ซึ่ง 1 ใน 10 ของผู้ถูกถามทั่วโลกระบุว่ายินดีต้อนรับผู้ลี้ภัยเข้าสู่บ้านของตน โดยชาวจีนต้อนรับมากที่สุดถึง 46% ตามด้วยอังกฤษ 29% เยอรมนี 10% แต่ชาวเยอรมันยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัยเข้าชุมชนและประเทศมากที่สุดถึง 56% และ 96% ตามลำดับ ส่วนชาวรัสเซียถึง 61% ไม่ต้อนรับผู้ลี้ภัยเข้าประเทศ

ชาลิล เชตตี้ เลขาธิการเอไอกล่าวว่า ตัวเลขนี้พูดด้วยตัวของมันเองคือประชาชนพร้อมต้อนรับผู้ลี้ภัย แต่การตอบสนองอย่างไร้มนุษยธรรมของรัฐบาลเรื่องวิกฤติผู้ลี้ภัยตัดขาดจากทัศนคติของพลเมืองของตน.

สมาคมไทยบอสตัน ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา อบรมนวดไทยเพื่อสุขภาพ ครั้งที่ 1

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/620631

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 15 พ.ค. 2559 14:05

 

สมาคมไทยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จัดอบรมนวดแผนไทยครั้งที่ 1 เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซสต์ คนไทยให้ความสนใจเรียนเพื่อเสริมสร้างความรู้ รองกงสุลใหญ่ นครนิวยอร์ก มอบใบประกาศผู้เข้าอบรม…

ผู้สื่อข่าวรายงานจากเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซสต์ สมาคมไทยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านการนวดแผนไทย ให้กับนักเรียนไทย รวมถึงประชาชนคนไทยที่สนใจศึกษาความรู้ด้านการนวด ร่วมด้วย อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์, ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และนางเสาวภา จงกิตติพงศ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดการอบรม

ทั้งนี้ ระหว่างการอบรม ได้มีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญนวดไทย อาจารย์จิตต์ณิญา ฐิติปัญญารัตน์ จากโรงพยาบาล พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เดินทางมาสอนให้กับผู้เข้าอบรม ในรูปแบบการสอนนวดไทย “นวดพื้นฐาน ราชสำนัก” ผู้เข้าอบรมมีทั้งหญิงและชาย ทั้งเจ้าของกิจการร้านสปา พนักงานร้านสปา และผู้สนใจทั่วไปที่ไม่มีประสบการณ์ ต่างก็ได้รับความรู้ในการนวดไทยที่ถูกต้อง ทั้งเรื่องของทฤษฎีและปฏิบัติ ณ ร้าน Smile Thai Health Spa เมือง Somerville, MA

ด้าน นายธีรเดช เวชธนากร นายกสมาคมไทยบอสตัน หรือคุณเอก เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาก็เพื่อเสริมสร้างความรู้ ถ่ายทอดให้กับคนไทยได้เข้าใจถึงการนวดที่ถูกหลัก จัดอบรมทั้งสิ้น 40 ชม. ผู้สนใจเข้ามาเรียนเป็นคนไทยจากหลายรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยครั้งนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 1 ณ เมืองบอสตัน มีโครงการจะจัดขึ้น ครั้งที่ 2 ต่อไปในภายภาคหน้า

“ก่อนหน้านี้ได้จัดขึ้นแล้วที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนจะบินตรงมาจัดอบรมที่เมืองบอสตัน โดยมีห้างร้านเอกชน คนไทยในเมืองบอสตัน ให้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการ สำหรับผู้เข้าเรียนที่จบหลักสูตรแล้ว คุณสุวนิจ สมบัติพิบูลย์ รองกงสุลใหญ่ นครนิวยอร์ก ได้มาเป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศแก่ผู้เข้าอบรม ณ วัดนวมินทรราชูทิศ (วัดบอสตัน) ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่จากประเทศไทย จำนวน 4 ท่าน ที่เดินทางมาให้ความรู้ที่ถูกหลักกับคนไทยในเมืองบอสตันมา ณ ที่นี้ด้วย” นายธีรเดช กล่าว

2 รัฐมนตรี ร่วมเปิดงาน ‘เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว’ ย่ิงใหญ่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/620396

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 พ.ค. 2559 20:24

 

2 รมว.ไทยร่วมเปิดงาน

รมว.ต่างประเทศ และ รมว.อุตสาหกรรม  ร่วมเปิดงาน “เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว” ประเทศญี่ปุ่น เพื่อโปรโมตประเทศไทยในทุกมิติ ทั้งอาหาร ผลไม้ สินค้า และการท่องเที่ยว ขนนางสาวไทยและศิลปินไปร่วมงานเพียบ ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานแน่นขนัด

นายกานต์ เหมสมิติ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2559 เวลา 10.00 น. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ พร้อมด้วย นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม และ นายเซจิ คิฮารา  รมช.ต่างประเทศ ของประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมเป็นประธานเปิดงาน “เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว” หรือ “ไทย เฟสติวัล” ครั้งที่ 17 ที่สวนสาธารณะโยโยงิ ใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นงานเผยแพร่อาหาร สินค้า และวัฒนธรรมไทยนอกประเทศที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นงานเทศกาลของต่างประเทศที่จัดใหญ่ที่สุดในกรุงโตเกียว

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่งประเทศ และ นายบรรสาน บุนนาค ออท. ณ กรุงโตเกียว ถ่ายภาพกบัคณะ นางสาวไทย ไปทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรม, ทูตการท่องเที่ยวและทูตการค้า

โดยพิธีเปิดงานปีนี้จัดอย่างย่ิงใหญ่ มีนายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คุณหญิงสุภรณ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และนายโนบุฮิโร มาเอดะ รองผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว รวมทั้งผู้แทนภาครัฐและนักการเมืองญี่ปุ่นเข้าร่วมพิธีเปิดงานด้วยอย่างคับคั่ง

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. พบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยว

หลังจากเปิดงานแล้ว นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และ นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรมพร้อมด้วยนายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้เดินเยี่ยมชมบรรยากาศภายในงาน ทักทายผู้ประกอบการไทยตามคูหาต่างๆ และร้านค้า โดยมีคณะนางสาวไทยเดินตามทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรม ทูตการท่องเที่ยวและทูตการค้า ขณะที่นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เดินพบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยวและตัวแทนท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่ไปร่วมงานด้วย ท่ามกลางผู้คนเข้าร่วมชมงานแน่นขนัด ต่างเข้าคิวซื้ออาหารและผลไม้กันยาวเหยียด

คณะนางสาวไทย โชว์นาฏศิลป์ไทยในชุดจุตรภาคี ประทับใจผู้ชม

ด้านเวทีการแสดง เร่ิมการแสดงด้านวัฒนธรรม โดยคณะนาฏศิลป์ของวิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ จากการสนับสนุนของ ททท. ต่อด้วยการสาธิตศิลปะมวยไทยจาก ค่ายวีรศักดิ์เล็ก แฟร์เท็กซ์ ที่โด่งดังในญี่ปุ่น จากนั้น คณะนางสาวไทยปี 2558 นำโดย น.ส.วิลาสินี จันทร์วุฒิวงศ์ นางสาวไทย และรองฯ อีก 3 คน ในชุดจตุรภาคี หลังจบการแสดงก็มีกิจกรรมมีทแอนด์กรี๊ดกับผู้ชม น.ส.วิลาสินี จันทร์วุฒิวงศ์ นางสาวไทยได้พูดภาษาญี่ปุ่นกับผู้ชมชาวญี่ปุ่น เนื่องจากเกิดที่ญี่ปุ่น เรียกเสียงปรบมือด้วยความประทับใจ และปิดท้ายกิจกรรมวัฒนธรรมด้วยการมอบรางวัลจากสายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย” ผู้สนับสนุนกิจกรรมในงาน

ชาวญี่ปุ่นนั่งชมการแสดงแน่นหน้าเวที

ส่วนภาคบันเทิง เริ่มการแสดงโดยวง Vie Trio และวง Tiger Club เรียกเสียงปรบมือเกรียวกราว จากนั้นแฟนคลับชาวไทยและชาวญี่ปุ่นต่างส่งเสียงกรี๊ดลั่นหน้าเวที เมื่อ เจมส์-จิรายุ พระเอกชื่อดังและนักร้องที่กำลังดังในญี่ปุ่น เนื่องจากกำลังมีผลงานละครไทยออกอากาศในญี่ปุ่น และจะมีผลงานเพลงในญี่ปุ่นตามมาอีก ได้ออกมาครวญเพลงเอาใจแฟนคลับ ก่อนจะเพิ่มความสนุกสนานต่อด้วยการแสดงของนักร้องขวัญใจเพลงแดนซ์ ฮั่น-อิสริยะ และ แกงส้ม ธนทัต เขย่าอารมณ์ผู้ชมหน้าเวทีเต้นตามไปด้วย และสานต่อความสนุกสนานด้วยวง 4 โพดำ ของนักร้อง “เดอะ สตาร์” แก้ม-วิชญาณี, กัน-นภัทร, โดม-จารุวัฒน์ และ ตั้ม-วราวุธ ที่ออกมาร้องและเต้นกันเต็มที่ เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับไม่ขาดสาย

เจมส์-จิรายุ ร่วมอบรางวัลแก่ผู้โชคดีที่ไปร่วมงาน

พักการแสดงโดย นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต พร้อมด้วยคณะนางสาวไทย และเจมส์-จิรายุ ขึ้นเวทีร่วมจับรางวัลบัตรโดยสารเครื่องบินของ บมจ.การบินไทย และไทยแอร์เอเชีย แก่ผู้ชม จากนั้นปิดท้ายภาคบันเทิงวันแรกด้วยการแสดงของนักร้องสาวลูกทุ่งชื่อดัง ตั๊กแตน-ชลดา และ เปา-เปาวลี ท่ามกลางแฟนเพลงนับหมื่นคนที่ร้องเต้นกันอย่างสนุกสนาน

แฟนคลับชาวญี่ปุ่น รอชมการแสดงของศิลปินไทยเต็มหน้าเวที

นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว กล่าวว่า งานปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “Thai Festival 2016 – Discover Thailand’s BEST” เป็นการเชิญชวนชาวญี่ปุ่นให้มาร่วมค้นหาความเป็นเลิศของไทยในด้านต่างๆ ซึ่งถือเป็นความพิเศษอย่างยิ่ง เพราะญี่ปุ่นกับไทยจะสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 130 ปีในปีหน้า และงานนี้เป็นงานที่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศในญี่ปุ่นรอคอยมาทุกปี ในปีนี้มีคูหากว่า 180 คูหา แบ่งเป็น คูหาอาหารของร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น 73 คูหา คูหาผลไม้ 14 คูหา คูหาเครื่องดื่ม 20 คูหา คูหาสินค้าและบริการ 48 คูหา จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไทยต่างๆ ทั้งเสื้อผ้ากับของใช้แบบไทยๆ และคูหาเอ็นจีโอ 10 คูหา วันแรกก็ได้รับความสนใจคนเข้าชมงานคึกคัก และวันสุดท้ายวันที่ 15 พ.ค.เป็นวันอาทิตย์คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานล้นหลามเหมือนทุกปี.

สาวญี่ปุ่นชื่นชอบมวยไทย ขึ้นเวทีร่วมกิจกรรม

ชาวญี่ปุ่นถ่ายภาพกับหุ่นผีตาโขน

ชาวญี่ปุ่นแต่งนินจา มาเที่ยวงาน

 

สื่อนอกตีข่าว ชายผู้ดีซิ่งเบนซ์ชนกระบะ 2 ศพ ในไทย-ตร.เร่งล่าตัวเพื่อน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/620010

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 พ.ค. 2559 22:45

 

สื่อในอังกฤษติดตามข่าว ชายชาวอังกฤษขับรถเบนซ์ชนกระบะจนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยล่าสุดพบว่าผู้ขับรถตัวจริงอาจเป็นชาวออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเพื่อนกัน…

สำนักข่าว เดลีเมล ของอังกฤษ ติดตามข่าวกรณีชายชาวอังกฤษ ซิ่งเบนซ์พุ่งชนท้ายกระบะอย่างแรงจนพลิกคว่ำหลายตลบ ทำ 2 สาวใหญ่ร่างกระเด็นเสียชีวิตทั้งคู่ บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ก่อนที่ผู้ขับรถเบนซ์จะหนีจากที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2559 ที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในไทยกำลังตามล่าตัวเพื่อนของชายชาวอังกฤษผู้เป็นเจ้าของหนังสือเดินทางในรถเบนซ์

เดลีเมล ระบุอีกว่า เจ้าหน้าที่ไทยเชื่อว่าเพื่อนคนนี้ ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย เป็นผู้ขับรถเมอร์เซเดส เบนซ์ ที่ประสบเหตุ ซึ่งตกลงข้างทางและอยู่ในสภาพพังยับเยิน ส่วนชายชาวอังกฤษที่หนังสือเดินทางที่พบในรถระบุชื่อว่า ไซมอน เวลลิง ทิ้งข้าวของของตัวเองเอาไว้ในรถ เจ้าหน้าที่ยังพบคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เงินสกุลจีน แว่นกันแดด บัตรเครดิตหลายใบ อุปกรณ์ปฐมพยาบาล และโทรศัพท์มือถืออยู่ในรถเบนซ์ด้วย

นอกจากนี้ เดลีเมล ยังรายงานโดยอ้างคำพูดของ พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เรือนแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ด้วยว่า “เมื่อดูจากความเสียหายของรถเบนซ์แล้ว พวกเราประหลาดใจมากที่คนขับสามารถออกจากที่เกิดเหตุได้”

พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ บอกกับสื่อไทยด้วยว่า รถกระบะยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับ อยู่ระหว่างมุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.สันกำแพง มาถึงที่เกิดเหตุ มีรถเบนซ์ขับมาด้วยความเร็วสูง ชนเข้าด้านท้ายรถกระบะอย่างรุนแรงจนรถกระบะพลิกหลายตลบ และคนในรถกระเด็นออกมา ส่วนรถเบนซ์ เสียหลักตกลงข้างทาง ขณะที่รถยนต์มิตซูบิชิ ขับตามรถเบนซ์มาเบรกไม่ทัน พุ่งชนรถกระบะซ้ำอีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามชาวต่างประเทศ ที่เชื่อว่าคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชายอังกฤษ ซิ่งเบนซ์ชนกระบะที่เชียงใหม่ 2 สาวใหญ่ร่างกระเด็นดับคู่

ไทยแจง ‘UNHRC’ ป้องจำกัดสิทธิแสดงออก ยัน ใช้บังคับผู้ปลุกปั่น

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/618993

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2559 04:50

 

เมื่อวันพุธ คณะผู้แทนไทย ชี้แจงต่อสมาชิกยูเอ็นในที่ประชุมสิทธิมนุษย์ ที่นครเจนีวา ซึ่งมีความกังวลกับการจำกัดสิทธิในไทย โดยยืนยันว่า มาตรการจำกัดสิทธิในการแสดงออก จะบังคับใช้กับผู้ปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงเท่านั้น

สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 11 พ.ค. คณะผู้แทนไทยชี้แจงในที่ประชุมทบทวนสิทธิมนุษยชนตามกลไกยูพีอาร์ รอบที่ 2 ต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) โดยปกป้องการจำกัดสิทธิในการแสดงออก ยืนยันว่า มาตรการนี้ใช้สำหรับผู้ที่ปลุกปั่นความรุนแรงเท่านั้น ท่ามกลางความกังวลของนานาชาติ ในเรื่องการจำกัดสิทธิเสรีภาพในไทย

ชาติสมาชิกสหประชาชาติหลายประทศที่มาร่วมการประชุม ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แสดงความกังวลต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทย ที่เสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่รัฐบาลทหารเข้ากุมอำนาจในปี พ.ศ. 2557

ประเทศสมาชิกยูเอ็นจำนวนหนึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวนกฎหมายต่างๆ ซึ่งกำลังเป็นข้อถกเถียง เช่น กฎหมาย ม.112 ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มระบุว่า กฎหมายนี้ถูกนำมาใช้เพื่อปิดปากผู้วิจารณ์มากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่ สหรัฐอเมริกาแถลง ณ ที่ประชุมยูเอ็นเอชอาร์ซี ขอให้ไทยยอมให้ชาวไทยทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมืองอย่างเต็มที่ และเรียกร้องให้ยกเลิกบทลงโทษขั้นต่ำสำหรับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

อย่างไรก็ตาม คณะผู้แทนจากกระทรวงยุติธรรมของไทย ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า การจำกัดสิทธิดังกล่าวจะถูกใช้สำหรับผู้ที่ปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงเท่านั้น ผู้แทนไทยยังบอกกับที่ประชุมในช่วงท้ายของการชี้แจงด้วยว่า พวกเขาคาดว่าจะออกข้อเสนอแนะบางประการในวันศุกร์

อนึ่ง ไทยเป็นหนึ่งใน 14 ประเทศ ที่ต้องตอบคำถามในการประชุมทบทวนสิทธิมนุษยชนของประเทศตามกลไกยูพีอาร์ รอบที่ 2 ซึ่งยูเอ็นเอชอาร์ซีใช้เพื่อตรวจสอบสิทธิมนุษยชนในชาติสมาชิกทั้ง 193 ประเทศ

พ่อพระเด็กกำพร้า! กงสุลไทย ซิดนีย์ มอบเครื่องราชฯ แก่ ‘ปีเตอร์ เบนส์’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/615323

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 พ.ค. 2559 14:07

 

(ภาพจาก : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์)

สถานกงสุลไทย ณ นครซิดนีย์ มอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ “เบญจมดิเรกคุณาภรณ์” แก่นายปีเตอร์ เบนส์ ประธานมูลนิธิ Hands Across the Water ช่วยเหลือบ้านเด็กกำพร้าและศูนย์พักพิงต่างๆ อันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ…

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 59 นายประสิทธิ์ นิเวศน์ทอง ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ได้จัดพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ “เบญจมดิเรกคุณาภรณ์” แก่นายปีเตอร์ เบนส์ (Peter Baines) ชาวออสเตรเลีย ประธานมูลนิธิ Hands Across the Water ซึ่งเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทย ช่วยเหลือเด็กกำพร้าจากเหตุการณ์สึนามิที่ภาคใต้ของไทย ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา โดยพิธีมีขึ้นที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ มีข้าราชการสถานกงสุลและสำนักงานไทยในนครซิดนีย์และแขกรับเชิญจากมูลนิธิ Hands Across the Water ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

ทั้งนี้ นายปีเตอร์ เบนส์ เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยในช่วงเหตุการณ์สึนามิที่ภาคใต้ของไทย เมื่อปี 2547 ขณะนั้นเป็นตำรวจด้านนิติวิทยาศาสตร์ รัฐบาลออสเตรเลียส่งไปช่วยพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตชาวออสเตรเลียจากเหตุการณ์สึนามิ ที่จังหวัดพังงา นายปีเตอร์ เบนส์ ได้สัมผัสกับผู้ประสบภัยชาวไทย โดยเฉพาะเด็กที่กำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว นายปีเตอร์ เบนส์ จึงได้ร่วมงานกับองค์กรการกุศลต่างๆ ในการช่วยเหลือเด็กกำพร้า และต่อมาเมื่อกลับมายังออสเตรเลียแล้ว ได้ก่อตั้งมูลนิธิ Hands Across the Water ในปี 2548 เพื่อระดมทุนบริจาคจากออสเตรเลียไปให้ความช่วยเหลือเด็กกำพร้าในภาคใต้ รวมทั้งได้จัดตั้งบ้านเด็กกำพร้าชื่อ บ้านธารน้ำใจ ที่ ต.เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เมื่อปี 2549 ทั้งนี้ยังขยายความช่วยเหลือไปยังบ้านเยาวชนที่ดูแลผู้ติดเชื่อ HIV ในจังหวัดยโสธรและสุรินทร์ จากนั้นในปี 2554 ได้จัดตั้งศูนย์ชุมชนที่ อ.ตะกั่วป่า เพื่อช่วยดูแลเด็กเล็กที่ผู้ปกครองฐานะยากจนต้องไปทำงานในเวลากลางวันไม่มีคนดูแลลูก

ที่ผ่านมา นายปีเตอร์ เบนส์ และมูลนิธิ Hands Across the Water จัดกิจกรรมการกุศลเพื่อระดมทุนไปช่วยเหลือเด็กไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดกิจกรรมปั่นจักรยานการกุศล โดยนำนักธุรกิจชาวออสเตรเลียไปปั่นจักรยานในประเทศไทย และนำเงินจากการบริจาคไปสนับสนุนการทำงานของบ้านเด็กกำพร้าและศูนย์พักพิงต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิ การจัดงานเลี้ยงการกุศลที่ Town Hall ให้นักธุรกิจชาวออสเตรเลียซื้อบัตรเข้าร่วมงาน รวมทั้งจัดประมูลการกุศลเป็นประจำทุกปี มีผู้ร่วมบริจาคกว่าแสนดอลลาร์

ดังนั้น รัฐบาลไทยเห็นว่านายปีเตอร์ เบนส์ เป็นผู้มีความรักในประเทศไทยและทุ่มเทช่วยเหลือเด็กและเยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสที่องค์กร Hands Across the Water จัดตั้งขึ้นครบ 10 ปี จึงได้ขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ให้กับนายปีเตอร์ เบนส์ ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2534 เพื่อพระราชทานแก่ผู้กระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน

แต่เดิมนั้นรัฐบาลจะขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับบุคคลซึ่งกระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน 2 ตระกูล ได้แก่ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย แต่เนื่องจากบุคคลซึ่งกระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชนนั้นมากขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้น พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลใหม่ขึ้น นามว่า “เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์” สำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความดีความชอบแก่บุคคลที่ทำประโยชน์ดังกล่าวเป็นการเฉพาะ ซึ่งบุคคลต่างชาติที่ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติก็จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลนี้ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ (The Most Admirable Order of the Direkgunabhorn)

ทูตไทยย้ำ งาน ‘เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว’ จัดย่ิงใหญ่อีกปี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/611689

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 27 เม.ย. 2559 02:20

 

(ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว)

เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดแถลงข่าว งาน “เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17” จัดอย่างย่ิงใหญ่อีกปี ภายใต้แนวคิด “Thai Festival 2016- Discover Thailand’s BEST” เชิญชาวญี่ปุ่นค้นหาความเป็นเลิศของไทย เชิญ “เจมส์ จิรายุ” พระเอกชื่อดังที่กำลังได้รับความนิยมในญี่ปุ่น คณะนางสาวไทย และศิลปินไทย ไปโชว์เพียบในหลากหลายสไตล์ นอกจากโปรโมตอาหาร ท่องเที่ยว วัฒนธรรม สินค้าและผลไม้ไทย

นางสุพิชญ์ชญา แฮริส ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รายงานว่าเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2559 นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้จัดแถลงงาน “เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17” และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับไทยในญี่ปุ่นตลอดทั้งปี ที่สมาคมผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น (Japan National Press Club) โดยมีสื่อมวลชนเข้าร่วมมากกว่า 30 คน ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ เข้ารับฟังการแถลงข่าวด้วยความสนใจ ปรากฏว่ากิจกรรมที่สื่อมวลชนญี่ปุ่นให้ความสนใจมากเหมือนทุกปี คืองาน “เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17” ซึ่งเป็นงานเทศกาลเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม อาหาร ผลไม้ของไทยในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด และเป็นงานใหญ่ของกรุงโตเกียว ที่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศรอไปเที่ยวชมกันทุกปี

นายบรรสาน บุนนาค ออท. ณ กรุงโตเกียว แถลงรายละเอียดงาน“เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17” (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว)

นายบรรสาน แถลงว่า งานเทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17 ปีนี้จัดขึ้นที่สวนสาธารณะโยโยงิ ระหว่างวันที่ 14-15 พฤษภาคม 2559 เป็นงานประชาสัมพันธ์อาหารไทย ตลอดจนสินค้า บริการ และวัฒนธรรมของไทย ที่จัดขึ้น ณ สวนสาธารณะโยโยงิ กรุงโตเกียว ในเดือนพฤษภาคม เป็นประจำทุกปี และมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานในแต่ละปีประมาณ 300,000 คน ได้รับการกล่าวขานกันว่า เป็นงานเทศกาลของต่างประเทศในกรุงโตเกียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นงานสำคัญงานหนึ่งของกรุงโตเกียว ที่ชาวญี่ปุ่นในกรุงโตเกียวและปริมณฑลรอคอยทุกปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ที่มีความใกล้ชิดในทุกด้าน ทั้งพระราชวงศ์ การเมือง เศรษฐกิจ และระหว่างประชนชน เป็นเวลานานกว่า 600 ปี โดยเฉพาะในระดับประชาชน จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีกระแสความนิยมอาหารไทย และสินค้าไทยในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันประเทศญี่ปุ่นก็เป็นที่ชื่นชอบของคนไทย มาเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

สำหรับแนวคิดของ งานเทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17 ปีนี้ คือ “Thai Festival 2016-Discover Thailand’s BEST” เป็นการเชิญชวนชาวญี่ปุ่นให้มาร่วมค้นหาความเป็นเลิศของไทยในด้านต่างๆ ซึ่งถือเป็นความพิเศษอย่างยิ่ง เพราะญี่ปุ่นกับไทยจะสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 130 ปีในปีหน้า ความเป็นเลิศในด้านแรกที่ต้องการให้ชาวญี่ปุ่นได้ค้นหา ได้แก่ อาหาร ผลไม้ เครื่องดื่ม สินค้าและบริการของไทยที่มีศักยภาพ โดยในปีนี้จะมีการออกคูหาในงานมากกว่า 180 คูหา ประกอบไปด้วย คูหาอาหารของร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น 73 คูหา คูหาผลไม้ จำนวน 14 คูหา จะมีการจำหน่ายผลไม้ไทยซึ่งปัจจุบันสามารถนำเข้ามาในญี่ปุ่นได้ 9 ชนิด ได้แก่ มะม่วง (ซึ่งรวมถึงมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์ และเขียวเสวย เป็นมะม่วงเขียว 2 สายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งได้รับอนุญาตจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้นำเข้าไปยังญี่ปุ่นได้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559) ส้มโอ มังคุด มะพร้าว ทุเรียน สับปะรด มะขาม สละ และกล้วย คูหาเครื่องดื่ม จำนวน 20 คูหา จะจำหน่ายเครื่องดื่มคุณภาพของไทย และคูหาสินค้าและบริการ จำนวน 48 คูหา ซึ่งจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไทย ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เสื้อผ้า และของใช้แบบไทยๆ รวมทั้งบริการต่างๆ และคูหาของ NGO 10 คูหา โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้คัดสรรร้านค้ามาร่วมออกคูหาโดยเน้นคุณภาพและศักยภาพ

สื่อมวลชนฟังอย่างตั้งใจ (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว)

ส่วนพื้นที่จัดงานในปีนี้จะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ในงานที่ชื่อว่า “Thai Village” เป็นการรวมคูหาของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ และบริษัทที่เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดงาน เพื่อแนะนำสินค้าและบริการที่เป็นเลิศของไทย เรียกได้ว่าเป็นการยกเมืองไทยมาไว้ที่สวนโยโยงิเลยทีเดียว ได้แก่ คูหาของโครงการในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกอบไปด้วยสถาบันสิริกิติ์ ร้านภัทรพัฒน์ ร้านภูฟ้า และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ผลงาน และผลิตภัณฑ์ในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะในปีนี้ที่เป็นปีครบรอบ 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ, คูหาของสำนักงาน ททท. จัดแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่คนญี่ปุ่นต้องห้ามพลาด, คูหาของสำนักงานพาณิชย์ จัดแนะนำผลิตภัณฑ์แฟชั่นจากแบรนด์คนไทย และแนะนำตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (TTM) ซึ่งรับประกันคุณภาพของสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ยังมีคูหาของสำนักงานเกษตร จัดแนะนำผลไม้ไทยที่หลากหลาย และผ้าไหมไทย, คูหาของสำนักงานอุตสาหกรรม จัดแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปของไทยที่ผลิตจากนวัตกรรมการผลิตอาหารที่ทันสมัยและถูกสุขลักษณะของไทย แสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสมาคมวัฒนหัตถศิลป์ล้านนา, คูหาของ จ.อุบลราชธานี และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต.) จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น, คูหาของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ จัดแนะนำสายการบินและมีกิจกรรมร่วมสนุกมากมาย รวมทั้ง กิจกรรมบนเวทีย่อย “Thai Village” มีจุดถ่ายภาพให้ผู้เข้าร่วมได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และยังมีโอกาสได้พบกับ “น้องสุขใจ” ตัวมาสคอตของงานในปีนี้ และยังมีกิจกรรมร่วมสนุกเพื่อลุ้นรางวัลบัตรโดยสารเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ–โตเกียว จากการบินไทยและไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ อีกด้วย

ด้านการแสดงบนเวทีใหญ่ ปีนี้จะมีการแสดงของศิลปินในระดับแนวหน้าของไทยในหลากหลายแนวเพลง ได้แก่ เพลงลูกทุ่ง โดย ตั๊กแตน ชลดา และ เปา เปาวลี, เพลงป๊อป โดยวงสี่โพดำ เป็นการรวมตัวกันของแชมป์รายการ The Star 4 คน ที่มีเสียงคุณภาพ ได้แก่ แก้ม วิชญาณี, กัน นภัทร, โดม จารุวัฒน์ และ ตั้ม วราวุธ เพลงแดนซ์ โดยแกงส้ม ธนทัต และฮั่น อิสริยะ การแสดงของ เจมส์ จิรายุ พระเอกยอดนิยมและนักร้องที่มีชื่อเสียงของไทย ซึ่งกำลังมีผลงานละครไทยออกอากาศในญี่ปุ่น และจะมีผลงานเพลงในญี่ปุ่นในเร็วๆ นี้, การแสดงของวง VieTrio วงคลาสสิกแนว Cross Over และวง Tiger Club เป็นวงกลองชั้นนำของไทย โดยจะเป็นการผสมผสานระหว่างเพลงคลาสสิกและเพลงไทย, การแสดงนาฏศิลป์จากวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ การแสดงมวยไทย และดนตรีไทยจากนักแสดงไทยในญี่ปุ่น

ออท.บรรสาน และคณะ ตอบข้อซักถาม (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว)

สีสันของงานเทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ปีนี้ นอกจากการแสดงแล้ว ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้เชิญ คณะนางสาวไทย ได้แก่ น.ส.วิลาสินี จันทร์วุฒิวงศ์ นางสาวไทย ปี 2557 รักษาการนางสาวไทยปี 2558 พร้อม น.ส.พิมพ์ชนก จิตต์ชู รองอันดับ 1 และ น.ส.เสาวลักษม์ ไชยศิริธัญญา รองอันดับ 2 ไปทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรม ทูตการท่องเที่ยว และทูตการค้า โดยไปโชว์การแสดงนาฏศิลป์ชุดพิเศษ พร้อมร่วมกิจกรรม “มีต แอนด์ กรี๊ด” ถ่ายภาพกับผู้ที่ไปร่วมงานเป็นที่ระลึก เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติได้มีภาพที่ระลึกของงานกับไปโชว์ที่บ้าน

เยาวชนจาก ร.ร.วัดสระเกศ เดินทางไปเบลเยียม เปิดวิสัยทัศน์ในอียู

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/610550

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 25 เม.ย. 2559 04:25

 

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

คณะนักเรียนจากโรงเรียนวัดสระเกศ ระดับมัธยมศึกษาจำนวน 10 คน พร้อมอาจารย์ผู้ดูแล เดินทางถึงกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อศึกษาวิถีชีวิต ภาษาและวัฒนธรรมของประเทศเบลเยียมและสหภาพยุโรป…

นายบุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำประเทศเบลเยียมรายงานว่า เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน คณะนักเรียนจากโรงเรียนวัดสระเกศ ระดับมัธยมศึกษาจำนวน 10 คน พร้อมอาจารย์ผู้ดูแลจำนวน 3 คน เดินทางถึงกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และเดินทางไปพักอยู่ที่วัดไทยธรรมารามเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อศึกษาวิถีชีวิต ภาษาและวัฒนธรรมของประเทศเบลเยียมและสหภาพยุโรป โดย พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และพระสุธีญาณวิเทศ ประธานสงฆ์วัดไทยธรรมาราม ดูแลที่พักอาหาร และการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ ในเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

คณะกรรมการบริหารวัดไทยธรรมาราม และสมาคมเพื่อนไทยในเบลเยียม ได้จัดพิธีต้อนรับคณะเยาวชนไทยตามโครงการ “คณะยุวทูตไทยเปิดวิสัยทัศน์ในสหภาพยุโรป” (Thai Young Ambassador visit the European Union) ระหว่าง 24/4/2559-14/5/2559 ณ วัดไทยธรรมาราม เมืองวอเตอร์ลู นายชาญณรงค์ แก้วเล็ก ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสระเกศ หัวหน้าคณะฯ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ผู้ร่วมงานสมาทานศีลห้าร่วมกัน

หลังจากนั้น พระสุธีญาณวิเทศ ประธานสงฆ์ กล่าวต้อนรับ และให้โอวาทกับคณะเยาวชนว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่เยาวชนไทยจากโรงเรียนวัดได้เดินทางมาเบลเยียม ศึกษาภาษาและวัฒนธรรมในยุโรป ขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อนำกลับไปประยุกต์ใช้ในอนาคต พยายามเสริมสร้างวิสัยทัศน์ให้เปิดกว้าง และพร้อมรับสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

นายชาย เวโน รองประธานกรรมการบริหารวัดไทยธรรมาราม และนางสุพรรณี บุญถูก ประธานสมาคมเพื่อนไทยในเบลเยียม กล่าวต้อนรับพร้อมให้คำแนะนำในการใช้ชีวิตตลอดช่วงเวลาสามสัปดาห์ที่มาทัศนศึกษา ต่อจากนั้น นายริค วาน เดอ นูร์ดา ลูกศิษย์วัดไทยธรรมาราม ชาวดัตช์ที่อาศัยอยู่ในเบลเยียมได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประเทศเบลเยียม และรับที่จะช่วยดูแลคณะนักเรียนระหว่างที่อยู่ในเบลเยียม

ช่วงบ่าย นายกาสตอง ปูเซ็ต นักธุรกิจชาวเบลเยียมที่มีร้านอาหารฝรั่งเศสที่หัวหิน ได้กล่าวต้อนรับและให้คำแนะนำกับเยาวชนว่า หากต้องการรู้หรือสงสัยอะไร ขอให้ถามตรงๆ เป็นสิ่งที่คนยุโรปแตกต่างจากคนไทยที่มักจะไม่ค่อยถาม ต่อจากนั้น นายบุญธง ก่อมงคลกูล เลขานุการวัดไทยธรรมาราม ได้บรรยายข้อมูลเกี่ยวกับสหภาพยุโรปในภาพรวม กลุ่มเชงเก้น และกลุ่มประเทศยูโรโซนที่ใช้เงินสกุลเดียวกันคือ เงินยูโร รวมทั้งระบบการปกครองของเบลเยียม

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

โครงการ “คณะยุวทูตไทยเปิดวิสัยทัศน์ในสหภาพยุโรป” (Thai Young Ambassador visit the European Union) จัดขึ้นเป็นครั้งแรกตามดำริของเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ที่ต้องการเปิดโอกาสให้เยาวชนจากโรงเรียนของวัดได้มีโอกาสเดินทางไปทัศนศึกษา และพักอยู่ที่วัดในเครือของวัดสระเกศที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของชาวต่างชาติ เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน โดยเยาวชนทุกคนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

สืบสานประเพณีสงกรานต์ในออสเตรียจัดแบบอนุรักษ์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/604711

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 เม.ย. 2559 04:30

 

ชาวไทยร่วมทำบุญทอดผ้าป่าในงานสงกรานต์

ชาวไทยในประเทศออสเตรีย ร่วมงานวันสงกรานต์สืบสานประเพณีไทยในกรุงเวียนนา จัดแบบอนุรักษ์ ทำบุญ ทอดผ้าป่า สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ และประกวดนางสงกรานต์ ปิดท้ายด้วยการแสดงพื้นบ้านไทย…

นางสาวโสภิดา ชาญวิชัย ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำออสเตรีย รายงานมาว่า นายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย พร้อมด้วยภริยาได้ร่วมเป็นประธานในงานประเพณีสงกรานต์ ของวัดไทยออสเตรียธรรมาราม ซึ่งจัดขึ้นที่เฮาส์ เดียร บีเกรกนุง เลขที่ 11-13 ราฟฟาเอล กราซเซ่ เขตสิบสอง 1200 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา

นายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร ออท. ณ กรุงเวียนนา พร้อมด้วยภริยา ร่วมเป็นประธานในงาน

สำหรับกิจกรรมในงาน ช่วงเช้ามีการทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ และพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี มีชาวไทยในกรุงเวียนนาและจากจังหวัดใกล้เคียง นำต้นผ้าป่ามาทอดกันจำนวนมาก จากนั้นร่วมสรงนํ้าพระ และรดนํ้าขอพรผู้ใหญ่ตามประเพณีไทย ส่วนภาคบ่ายมีการจัดประกวดนางสงกรานต์ และการแสดงบนเวที ของวงลูกทุ่งเวียนนาไทยอีสาน และหมอลําซิ่งคู่ คณะจงจิตร สายลมเย็น โดยการจัดงานเป็นการจัดงานแบบอนุรักษ์ประเพณีไทยภายในห้องจัดเลี้ยงใหญ่ จึงไม่มีการเล่นสาดน้ำกัน แต่สร้างความเบิกบานใจแก่ผู้ไปร่วมงานที่ได้ร่วมสืบสานประเพณีไทยในต่างแดน.

ร่วมสรงน้ำพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคล

บรรยากาศภายในงาน

ยิ้มแย้มที่ได้มาทำบุญ

ช่วยกันยกต้นผ้าป่า