ชาวไทยในสวิตเซอร์แลนด์ร่วมงานสงกรานต์คึกคัก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/604705

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 เม.ย. 2559 03:50

 

สาวไทยในสวิตเซอร์แลนด์ร่ายรำกันอย่างสนุกสนาน

วัดศรีนครินทรวราราม ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จัดงานวันสงกรานต์อย่างย่ิงใหญ่ ชาวไทยและชาวต่างประเทศกว่า 2,000 คน เข้าร่วมงานสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีไทย ด้วยความเพลิดเพลินสนุกสนาน และอิ่มหนำสำราญกับอาหารไทย ท่ามกลางความประทับใจ

นายนพปฎล คุณวิบูลย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น เป็นประธานในงาน

นางอรัญญา บุ๊ค ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รายงานว่า วัดศรีนครินทรวราราม เมืองเกรทเซนบาค รัฐโซโลทูร์น ซึ่งเป็นวัดสำคัญของชาวไทยในประเทสสวิตเซอร์แลนด์ ได้จัดงานประเพณีสงกรานต์อย่างย่ิงใหญ่ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2559 มีข้าราชการไทย ชุมชนชาวไทยและชาวต่างชาติไปร่วมงานกันอย่างเนืองแน่นกว่า 2,000 คน

ชาวไทยและชาวต่างประเทศร่วมตักบาตร

เร่ิมกิจกรรมช่วงเช้ามีพิธีทำบุญตักบาตร โดยมีนายนพปฎล คุณวิบูลย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น เป็นประธานในพิธี และ พระครูกิตติธรรมวิเทศ รักษาการเจ้าอาวาส เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์ออกบิณฑบาตและเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นเปิดโอกาสให้ผู้ไปร่วมงานได้สรงน้ำพระสงฆ์และพระพุทธรูป เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะร่วมรดน้ำดำหัวขอพรผู้สูงอายุตามประเพณีไทย

เข้าแถวรอตักบาตรกันอย่างอิ่มเอิบบุญ

นอกจากนี้ผู้ไปร่วมงานยังได้สนุกสนานกับการร่วมขบวนรำกลองยาว แห่ต้นผ้าป่าไปถวายพระภิกษุ พร้อมทั้งเพลิดเพลินกับชมการแสดงรำไทย ร่วมก่อกองทรายปักธง ปักพวงมโหตรตามประเพณีพื้นบ้านแบบโบราณ และอิ่มอร่อยกับอาหารไทย สร้างความประทับใจแก่ชาวต่างประเทศที่เข้าร่วมงาน และสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีไทย

ผู้ไปร่วมงานร่วมสรงน้ำพระภิกษุสงฆ์

รดน้ำขอพรผู้ใหญ่

สรงน้ำพระพุทธรูป เพื่อความเป็นสิริมงคล

รำแห่ผ้าป่า

คนอุ้มต้นผ้าป่าด้วยความอิ่มเอิบบุญ

กลองยาวแห่นำขบวนผ้าป่าอย่างสนุกสนาน

ชาวไทยและชาวต่างประเทศไปร่วมงานกว่า 2,000 คน

พ่อครัวฮีโร่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/602901

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 8 เม.ย. 2559 08:15

 

นายณัฐภัทร เป็นพนัสสัก (คนที่ 2 จากซ้าย) พ่อครัวชาวไทยในนครซิดนีย์เข้ารับเหรียญกล้าหาญ “THE BRAVERY MEDAL” (BM) ที่รัฐบาลท้องถิ่นนครซิดนีย์มอบให้หลังสร้างวีรกรรมช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหญิงชาวไอริชให้รอดพ้นจากการถูกคน จรจัดทำร้ายเมื่อปี 2556.ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

‘ออสเตรเลีย’ให้ เหรียญกล้าหาญ ‘พ่อครัว’ชาวไทย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/602885

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 8 เม.ย. 2559 07:30

 

รัฐบาลท้องถิ่นนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มอบเหรียญกล้าหาญแก่พ่อครัวชาวไทยที่เคยสร้างวีรกรรมช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหญิงชาวไอริช ที่ถูกคนจรจัดทำร้ายในย่านชุมชนกลางนครซิดนีย์ เจ้าตัวเผยสุดดีใจในเกียรติที่ได้รับ สร้างชื่อเสียงให้กับคนไทยและประเทศชาติ พร้อมทั้งจะนำเหรียญกลับไปให้พ่อแม่ที่เมืองไทยชื่นชม

ที่ทำเนียบรัฐบาลท้องถิ่นนครซิดนีย์ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่นนครซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย ตรงกับเวลา 07.00 น. ประเทศไทย รัฐบาลท้องถิ่นนครซิดนีย์ ได้ทำพิธีมอบเหรียญกล้าหาญ “THE BRAVERY MEDAL” (BM) ให้แก่นายณัฐภัทร เป็นพนัสสัก หรือต้อม อายุ 29 ปี พ่อครัวร้านอาหารชื่อ VINERY FOOD ที่นครซิดนีย์ หลังจากเมื่อปี 2556 ได้ช่วยเหลือหญิงสาวชาวไอริชที่ถูกชายจรจัดไล่แทงได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนพิตต์สตรีท ใจกลางนครซิดนีย์ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2556 เหตุการณ์ครั้งนั้นนายณัฐภัทรได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง แต่มีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล จากวีรกรรมดังกล่าวหน่วยงานของรัฐบาลท้องถิ่นนครซิดนีย์ พิจารณามอบเหรียญกล้าหาญ เชิดชูเกียรติคุณ เพื่อเป็นแบบอย่างความกล้าหาญให้ชาวออสเตรเลียทั้งประเทศได้รับรู้ โดยพิธีจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ

นายณัฐภัทรเปิดเผยหลังเข้ารับรางวัลว่า ดีใจและภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้รับเกียรติรับมอบเหรียญกล้าหาญจากรัฐบาลออสเตรเลีย ตนเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง ในชีวิตไม่เคยได้รับรางวัลอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ทำให้คิดไปได้หลายอย่าง โดยคิดว่าไม่ได้รับเพื่อตัวคนเดียว แต่เป็นคนไทยที่มีโอกาสสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยและยังรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งแก่วงศ์ตระกูล พ่อแม่ต่างมีความยินดีเป็นอย่างมาก ที่ครอบครัวได้รับเกียรตินี้ หลังจากนี้จะนำเหรียญกลับไปให้พ่อแม่ที่เมืองไทยได้ชื่นชม

“ผมอยากจะฝากคนไทยและสังคมไทยที่ซิดนีย์ว่า ให้รักกัน สามัคคีกัน อย่าทำร้ายกัน อย่าทำลายชื่อเสียงประเทศไทย เหนือไปกว่านั้น ขอให้ช่วยเหลือกัน เราคนไทยด้วยกัน หนักนิด เบาหน่อย ขอให้ถือว่าเป็นคนไทยเหมือนกัน” นายณัฐภัทรกล่าว

ด้านนายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ กล่าวว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยและชุมชนไทยในนครซิดนีย์เป็นอย่างยิ่ง ที่มีคนไทยได้สร้างชื่อเสียงและเกียรติประวัติจนได้รับเหรียญกล้าหาญ นอกจากนายณัฐภัทรได้รับการยกย่องแล้ว ยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เยาวชนชาวไทยและคนท้องถิ่นในนครซิดนีย์ต่อไป สถานกงสุลไทย ณ นครซิดนีย์ จะจัดเลี้ยงแสดงความยินดีและเชิดชูเกียรติให้อีกครั้งหนึ่ง พร้อมกันนี้อยากให้กรณีของนาย ณัฐภัทรเป็นแบบอย่างในการทำความดีในรูปแบบอื่นได้ เมื่อสังคมชื่นชมจะส่งผลไปถึงครอบครัว และพลอยทำให้ชุมชนไทยได้รับความชื่นชมไปด้วย

สำหรับเหรียญกล้าหาญ “THE BRAVERY MEDAL” (BM) ของประเทศออสเตรเลียที่มอบให้แก่นายณัฐภัทร เป็นเหรียญตราเครื่องหมายและรางวัลสำหรับบุคคลที่มีความกล้าหาญ โดยเข้าให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่นขณะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1975 โดยสภาชุมชน ต่อจากนั้นรัฐบาลออสเตรเลีย ได้ตราเป็นเหรียญกล้าหาญชั้นสาม และผู้ที่ได้รับเหรียญกล้าหาญดังกล่าว ยังสามารถใช้อักษรย่อ (BM) ต่อท้ายชื่อตัวเอง เพื่อเชิดชูเกียรติยศวงศ์ตระกูลสืบต่อไปได้ด้วย

รบ.ออสซี่ มอบเหรียญ BRAVERY MEDAL แก่ฮีโร่หนุ่มไทย ช่วยสาวไอริชถูกแทง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/602754

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 7 เม.ย. 2559 23:24

 

รัฐบาลออสเตรเลียประกาศเกียรติคุณ ฮีโร่หนุ่มไทย ช่วยสาวไอริชถูกไล่แทงจนตัวเองเจ็บ มอบเหรียญกล้าหาญ BRAVERY MEDAL อย่างเป็นทางการ เพื่อเชิดชูให้คนได้รับรู้ เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนคนไทย-คนท้องถิ่นในนครซิดนีย์ สร้างความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ…

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นายณัฐพันธ์ ตรีเมฆ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ประจำประเทศออสเตรเลีย รายงานว่า จากกรณีนายณัฐภัทร เป็นพนัสสัก หรือต้อม อายุ 29 ปี อาชีพเชฟร้านอาหาร VINERY FOOD คนไทยที่อาศัยอยู่ในซิดนีย์ ได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวไอริชที่ถูกชายจรจัดไล่แทงได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนพิตต์สตรีท ใจกลางเมืองซิดนีย์ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2556 ที่ผ่านมา จนตัวเองได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ต่อมาได้รับการติดต่อจากหน่วยงาน GOVERNMENT HOUSE SYDNEY แจ้งให้นายณัฐภัทร ทราบถึงการพิจารณามอบเหรียญกล้าหาญ เพื่อเชิดชูเกียรติคุณนั้น หลังจากรอการติดต่อกลับมาหลายเดือน ล่าสุดทาง GOVERNMENT HOUSE SYDNEY ได้ส่งการ์ดเชิญนายณัฐภัทร เพื่อให้มารับมอบเหรียญกล้าหาญดังกล่าว โดยกำหนดให้มีพิธีมอบเหรียญขึ้นที่ GOVERNMENT HOUSE ในวันที่ 7 เม.ย. 2559 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

สำหรับความเป็นมาของเหรียญกล้าหาญ THE BRAVERY MEDAL (BM) ประเทศออสเตรเลีย เป็นตราเครื่องหมาย และรางวัลสำหรับบุคคลที่มีความกล้าหาญ ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่นขณะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย เพื่อปกป้องชีวิต และทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1975 โดยสภาชุมชน ต่อจากนั้นรัฐบาลออสเตรเลียได้ตราตั้งให้เหรียญดังกล่าวเป็นเหรียญกล้าหาญ ชั้นสาม จากจำนวนทั้งหมดสามชั้นเหรียญด้วยกัน และผู้ที่ได้รับมอบเหรียญกล้าหาญดังกล่าว ยังสามารถใช้อักษรย่อ (BM) ต่อท้ายชื่อตัวเอง เพื่อเชิดชูเกียรติยศวงศ์ตระกูลสืบต่อไปได้อีกด้วย

นายณัฐภัทร ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “ในวันพิธีมอบเหรียญ มีผม แฟนผม และผู้ใหญ่อีกสองท่านที่ผมให้ความนับถือ คือคุณชัชวาลย์ วิชากรกุล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคมไทย-ออสเตรเลียน ที่ให้ความช่วยเหลือ และให้คำปรึกษา และคุณธนาครับ ซึ่งทางผู้จัดพิธี อนุญาตให้แค่สามคนเท่านั้นครับ ส่วนเรื่องความรู้สึกที่ได้รับเหรียญนั้น รู้สึกดีใจ และภูมิใจเป็นอย่างมากครับ ได้รับเกียรติรับมอบเหรียญ BRAVERY MEDAL จากรัฐบาลออสเตรเลีย ในครั้งนี้ ซึ่งผมก็เป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง ในชีวิตไม่เคยได้รับรางวัลอะไรเลยที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ซึ่งก็ทำให้ผมคิดไปได้หลายอย่าง และคิดว่า ผมไม่ได้รับเพื่อตัวผมคนเดียว แต่มันกลับทำให้ผมคิดว่า ผมเป็นคนไทยที่มีโอกาสมาสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยของเรา

พร้อมทั้งรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งแก่วงศ์ตระกูลของผมครับ ซึ่งครอบครัวผม คุณพ่อคุณแม่ก็มีความยินดีเป็นอย่างมาก ที่ครอบครัวเราได้รับเกียรติให้รับมอบเหรียญนี้ ซึ่งหลังจากนี้ผมก็จะนำเอาเหรียญกลับไปให้คุณพ่อคุณแม่ที่เมืองไทยได้มีโอกาสได้เห็น และชื่นชมด้วยครับ สุดท้ายก็อยากจะฝากกับคนไทย และสังคมไทยที่นี่นะครับว่า ให้รักกัน สามัคคีกัน อย่าทำร้ายกัน อย่าทำร้ายชื่อเสียงประเทศไทย และเหนือไปกว่านั้น ก็ให้ช่วยเหลือกันด้วยครับ เราคนไทยด้วยกัน หนักนิด เบาหน่อย ก็ขอให้ถือซะว่า เราเป็นคนไทยเหมือนกัน”

ทางด้านนายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ ประจำนครซิดนีย์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า จากที่คนไทยได้รับมอบเหรียญในครั้งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและชุมชนไทยในนครซิดนีย์เป็นอย่างยิ่ง ที่มีคนไทยได้สร้างชื่อเสียงและเกียรติประวัติจนได้รับเหรียญกล้าหาญที่เรียกว่า Bravery Medal ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียจะมอบให้กับบุคคลที่แสดงออกถึงความกล้าหาญที่จะปกป้องคนอื่นในยามสถานการณ์คับขัน ซึ่งนายณัฐภัทร จะได้รับการยกย่องและจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เยาวชนคนไทยและคนท้องถิ่นในนครซิดนีย์ต่อไป

ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ และเห็นว่าควรจัดงานเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่นายณัฐภัทร ซึ่งได้รับเหรียญกล้าหาญอย่างเป็นทางการแล้ว ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ จะหาวันเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมจัดงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการต่อไป ขณะที่ชุมชนไทยโดยนายชัชวาลย์ ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคมไทย-ออสเตรเลียน เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่นายณัฐภัทร ในครั้งแรกนี้หลังจากพิธีการของทางรัฐบาลออสเตรเลีย

“การทำดีมีหลายอย่างด้วยกัน ไม่จำกัดว่าต้องเป็นการแสดงความกล้าหาญถึงขนาดกรณีของคุณณัฐภัทร ก็สามารถทำในรูปแบบอื่นได้ การทำความดีนอกจากเราจะภูมิใจก็ยังเป็นตัวอย่างให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นหลัง ได้เห็นเป็นตัวอย่างและนำไปปฏิบัติตามและหากการทำความดีมีผู้อื่นเห็นคุณค่า ก็จะได้รับความชื่นชมซึ่งก็ไม่เฉพาะเพียงแต่ตัวเอง สังคมก็จะชื่นชมไปถึงครอบครัว หรือกรณีคุณณัฐภัทร ก็พลอยทำให้ชุมชนไทยได้รับความชื่นชมไปด้วย ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและชุมชนไทยในนครซิดนีย์เป็นอย่างยิ่ง”

คนเบลเยียมนับพันร่วมงานสงกรานต์ ชื่นชมวัฒนธรรมไทย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/601264

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 เม.ย. 2559 06:00

 

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

วัดไทยธรรมาราม ในเมืองวอเตอร์ลู ประเทศเบลเยียม ได้จัดงานสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทยเนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2559 รวมทั้งเปิดตลาดนัดวัดไทยซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากชาวเบลเยียม…

นายบุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำเบลเยียม รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2559 วัดไทยธรรมาราม เมืองวอเตอร์ลู ประเทศเบลเยียม ได้จัดงานสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทยเนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2559 โดยมีนางกาญจนา บุทธิจักร์ กรรมการวัดไทยธรรมารามเป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ต่อจากนั้น นายชาย เวโน จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย พระสงฆ์ทำพิธีมาติกาบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันที่ 22 มีนาคม หลังจากนั้น ผู้ร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 6 รูป และมีการสรงน้ำพระพุทธและพระสงฆ์เพื่อเป็นสิริมงคลเนื่องในวันปีใหม่ไทย

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

ช่วงบ่าย มีการแสดงทางวัฒนธรรมคือ การบรรเลงดนตรีไทยของวง “เรารักเมืองไทย” โดยเยาวชนไทยในเบลเยียม การรำอวยพร และการแสดงรำอีกหลายชุด รวมทั้งมีการประกวดนางงามสงกรานต์โดยสาวไทยและลูกครึ่งไทยเข้าร่วมประกวด โดยทุกคนแต่งชุดไทยและพูดภาษาไทย รวมทั้งมีการไหว้แบบไทยอีกด้วย นับว่าเป็นการส่งเสริมและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทยให้ชาวต่างชาติได้รับชมและเกิดความรู้ความเข้าใจวัฒนธรรมไทยอันงดงาม

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

อนึ่ง วัดไทยธรรมารามได้จัดงานสงกรานต์ในอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่มาเยี่ยมชม “ตลาดนัดวัดไทย” ที่จัดขึ้นทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ได้มีส่วนร่วมรับชมและสัมผัสบรรยากาศงานวันปีใหม่ไทย โดยมีผู้เข้าร่วมงานตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลา 18.00 น. จำนวนกว่าหนึ่งพันคน

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

“ตลาดนัดวัดไทย” เป็นตลาดนัดกลางแจ้งตั้งอยู่ภายในสวนขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ด้านหลังวัดไทยธรรมาราม เมืองวอเตอร์ลู ซึ่งได้จัดตั้งครบ 5 ปีเศษแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนไทยที่พำนักอยู่ในประเทศเบลเยียมได้มีพื้นที่สำหรับทำมาค้าขายเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนไทยในเบลเยียม มีอาหารไทยหลากหลายจากทุกภาคของไทย ขนมหวาน เช่น ขนมครก ขนมเบื้อง ข้าวเหนียวปิ้ง รวมทั้งพืชผักไทยที่คนไทยปลูกกันเองทั้ง ใบกะเพรา โหระพา พริก ฯลฯ

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

นายฌองชาวเบลเยียมที่มาตลาดนัดวัดไทยเป็นประจำกล่าวว่า “ผมเป็นลูกค้าประจำตลาดนัดวัดไทย ชอบมากเพราะมีอาหารไทย ขนมไทย และสินค้าไทยที่คนไทยแท้ๆ ปรุงขาย ราคายุติธรรม และที่สำคัญคือบรรยากาศแบบไทยๆ เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ” เขากล่าวขณะที่มือทั้งสองข้างหิ้วถุงสินค้าและอาหาร “ผมไม่ต้องนั่งเครื่องบิน เพียงแค่ขับรถมาวัดไทยธรรมารามก็เหมือนได้อยู่ที่ประเทศไทย แล้วยังได้พูดคุยสนทนาธรรมกับพระสงฆ์ด้วย”

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

นอกจากนั้น ร้านค้าที่มาร่วมออกร้านขายอาหารหรือสินค้าที่ “ตลาดนัดวัดไทย” ทุกร้านมีการจดทะเบียนการค้าและใบอนุญาตจากสำนักงานควบคุมความปลอดภัยด้านห่วงโซ่อาหารของเบลเยียม เป็นมาตรฐานรับรองด้านความสะอาดและถูกสุขอนามัย เพื่อเป็นหลักประกันให้กับผู้บริโภค และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายเบลเยียมอย่างเคร่งครัดอีกด้วย

(ภาพ: บุญธง ก่อมงคลกูล)

ดังไกลถึงเมืองนอก! สื่อเทศตีข่าวดาราไทย ‘ปุ้ย อรัญญา’ ขึ้นป้ายหาสามี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/600336

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 เม.ย. 2559 02:40

 

(ภาพจาก: เฟซบุ๊ก / Nut Nattapat)

ดังไกลถึงเมืองนอกเสียแล้วสำหรับข่าวการขึ้นป้ายประกาศหาสามีของ ดาราสาวร่างอวบชาวไทย ปุ้ย อรัญญา เมื่อล่าสุดสำนักข่าวในอังกฤษนำเรื่องนี้ไปรายงานอย่างแพร่หลาย…

สำนักข่าว เดอะ มิร์เรอร์ ของอังกฤษ รายงานข่าว ดาราสาวร่างอวบ ‘ปุ้ย อรัญญา’ เช่าป้ายบิลบอร์ดในเขตลาดพร้าว ย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ ในกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทย เพื่อติดป้ายประกาศหาสามี จนเป็นข่าวฮือฮาตามสื่อต่างๆในประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ก่อน

ป้ายดังกล่าวมีข้อความว่า “ป๊าด!! 40 ยังซิง ปุ้ย อรัญญา ประกาศหา ผัว ขอโดนสักที…ก่อนตาย” และมีภาพเกือบเปลือยของ ปุ้ย อรัญญา นอนยั่วยวน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลว่า เธอต้องการสร้างกระแสหรือไม่

ขณะที่ตำรวจไทยมีคำสั่งให้ปลดป้ายดังกล่าวลงตั้งแต่วันแรกที่ถูกติดตั้ง และสั่งปรับเงินบริษัทโฆษณาที่ติดป้ายวาบหวินนี้เป็นเงิน 500 บาท ฐานกระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล “เราก็อยากถามหญิงในภาพบนป้ายนี้เหมือนกันว่าเธอทำเพื่ออะไร” เดอะ มิร์เรอร์รายงานโดยอ้างคำพูดของโฆษกตำรวจไทยนายหนึ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปลดแล้ว!! ป้ายสาวอวบ ‘ปุ้ย อรัญญา’ หาสามีริมถนน สำนักงานเขตลาดพร้าวสั่งดำเนินคดีเฉียบขาด

45 ปียังซิง? ต้นตอป้ายหาสามี! ปุ้ย อรัญญา ขอสักครั้ง…ก่อนตาย!

ปุ้ย อรัญญา รูดซิปปากกรณีบิลบอร์ดหาปั๋ว ยังไม่รู้จะแถลงข่าวหรือไม่

ข้อมูลชาวต่างชาติกว่า 2,000 คนในภาคใต้ของไทยถูกแพร่บนอินเตอร์เน็ต

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/597578

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 มี.ค. 2559 23:45

 

(ภาพ: facebook / Thai Netizen Network)

สื่อนอกรายงานข่าวว่า มีผู้พบข้อมูลส่วนตัวของชาวต่างชาติที่อาศัยในภาคใต้ของประเทศไทยจำนวนกว่า 2,000 คน ถูกเผยแพร่ลงบนเว็บไซต์หนึ่ง ก่อนที่เว็บไซต์ดังกล่าวจะถูกปิดในเวลาต่อมา…

สำนักข่าวในประเทศเบลเยียมรายงานว่า ข้อมูลรายชื่อ, ที่อยู่, การประกอบอาชีพและหมายเลขหนังสือเดินทางของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทยจำนวนกว่า 2,000 ราย ถูกโพสต์บนเว็บไซต์หนึ่งบนอินเตอร์เน็ตเป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นความข้อผิดพลาดจากเว็บไซต์ของนักพัฒนาโปรแกรมที่อยู่ในระหว่างทำการทดสอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อคืนวันอาทิตย์โดยผู้ใช้ที่ทำการสื่อสารกันบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ พบเว็บไซต์ดังกล่าวโดยบังเอิญ จึงในนำเรื่องนี้มาตั้งคำถามบนหน้าเพจ ‘Thai Netizen Network‘ ในเว็บไซต์เฟซบุ๊กว่าเว็บไซต์เช่นนี้กระทำการโดยถูกกฎหมายหรือไม่

ซึ่งในเวลาต่อมา นักพัฒนาเว็บไซต์ที่ชื่อว่า นายอัครัมย์ อาลีมิง (ยังไซเบอร์ โดยอัครัมย์) ผู้อ้างตัวว่าเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์เจ้าปัญหานี้ ได้ออกแถลงการณ์อธิบายบนเฟซบุ๊กว่า ข้อมูลของชาวต่างชาติรั่วไหลออกมาระหว่างการทดลองสาธิตสำหรับตำรวจ เขากล่าวเสริมว่า “แต่เมื่อประชาชนมีความวิตกกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย เราจึงได้ปิดเวปดังกล่าวลง”

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเว็บไซต์ดังกล่าวจะไม่สามารถเปิดเข้าได้ในวันจันทร์ แต่ได้กลายเป็นที่โจษขานกันบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ นอกจากนั้น เว็บไซต์ดังกล่าวยังได้มีการใช้ตราประทับของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทย แต่ไม่ได้ใช้ที่อยู่เว็บซึ่งเป็นที่อยู่เว็บไซต์ทางการของรัฐบาล

ทั้งนี้เหตุการล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากไทยเริ่มใช้มาตรการใหม่ภายใต้สโลแกน “คนดีอยู่ง่าย คนร้ายอยู่ยาก” (Good guys in, bad guys out) เพื่อปราบปรามการก่ออาชญากรรมโดยชาวต่างชาติหรือจัดการกับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศเกินระยะเวลาที่กำหนด

กงสุลใหญ่-ทีมไทยแลนด์ จัดงานมหาสงกรานต์ TGF 2016 ที่นครซิดนีย์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/592495

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 มี.ค. 2559 03:50

 

สถานกงสุลใหญ่ และทีมไทยแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย จัดงานมหาสงกรานต์ Thailand Grand Festival ที่ Tumbalong Park ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ เมื่อวันที่ 12-13 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจัดยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา ชาวไทยและต่างชาติแห่เที่ยวเนืองแน่น…

เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2559 นายณัฐพันธ์ ตรีเมฆ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ประจำประเทศออสเตรเลีย รายงานข่าว การจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ Thailand Grand Festival ที่ Tumbalong Park ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ นครซิดนีย์ เมื่อวันที่ 12-13 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณการจัดงานโดยรอบ ที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยย่านกลางใจเมือง และประชนที่สัญจรไปมาตลอดทั้งวัน ได้เข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงช้าเริ่มตั้งแต่ 11.00 น. ประชาชนเริ่มที่จะทยอยเดินเข้ามาภายในงานเพื่อสรงน้ำพระ และชมการแสดงบนเวที โดยมีการแสดงต่างๆ จาก Metropolitan Administration, Thai Education Center, Dhammachai Education Foundtion, Buddharangsee Language School Wollongong, Siam Classic Dance Studio, การสาธิตการทำอาหารไทยโดยเชฟเดียร์ จาก “ร้านอาหาร @Bangkok” ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากชาวออสซี่ รวมทั้งการแสดงรำไทยจากโรงเรียนพุทธรังษีเป็นต้น ที่เป็นจุดสนใจของสื่อมวลชน และช่างภาพชาวต่างชาติมาทำข่าวกันเป็นจำนวนมาก

ปีนี้สถานกงสุลใหญ่จัดหาเต็นท์ขนาดใหญ่มาบริการประชาชนเพื่อคลายร้อน

สื่อมวลชนต่างชาติให้ความสนใจนวดแผนโบราณของไทย

การสาธิตการทำอาหารไทยโดยเชฟเดียร์จาก ร้านอาหาร@Bangkok

ต่อมาเวลาประมาณ 16:30 น. นายจิระชัย ปั้นกระษิณ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงแคนเบอร์รา นายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ ประจำนครซิดนีย์, นางรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานซิดนีย์ ทีมไทยแลนด์ ซิดนีย์เคาน์ซิล และตัวแทนของดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ ร่วมกันทำพิธีเปิดโดยฉีดน้ำจากปืนฉีดน้ำ เพื่อฉลองสงกรานต์จากนั้นในช่วงบ่าย ซึ่งในเดือนมีนาคมนี้เป็นช่วงฤดูร้อนของชาวซิดนีย์ ท่ามกลางความร้อนระอุ โดยอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นเกือบไปถึง 40 องศา แต่ก็ยังมีประชาชนที่สนใจเดินเข้ามาภายในงานมากขึ้นกว่าในช่วงเช้า เดินต่อคิวเพื่อเข้าแถวซื้ออาหารไทย ตามบูธต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยร้านอาหารไทย ที่เข้ามาจำหน่ายนั้น ได้ผ่านการคัดเลือกแล้วเป็นอย่างดี จากสถานกงสุลใหญ่ และทีมไทยแลนด์ ว่าสามารถทำอาหารไทยรสชาติ อาหารไทยแท้ๆ จำหน่ายแก่ชาวต่างชาติได้ เพื่อคงไว้ซึ่งรสชาติ และโปรโมตประเทศไทยไปในตัวอีกด้วย

อากาศร้อนจัดน้ำแข็งใสใส่น้ำหวานของหวานแบบไทยๆขายดีมาก

การแสดงรำไทยบนเวที

การแสดงรำไทยบนเวที

ในปีนี้ทางผู้จัด ได้เพิ่มเต็นท์บังแดดขนาดใหญ่ และเก้าอี้อีกเป็นจำนวนมาก ให้ประชาชน ได้นั่งรับประทานอาหาร และนั่งชมการแสดงศิลปะ นาฏศิลป์ไทยบนเวที และชมศิลปะการชกมวยไทยจากค่าย “Roongchai Gym” โดยที่ไม่ร้อนจนเกินไปโดยในช่วงแย็นในปีนี้ ทางสถานกงสุลใหญ่ และทีมไทยแลนด์ออสเตรเลีย ได้นำเอาศิลปิน จาก The Voice Thailand Season 4 นำโดย น้องไข่มุก-รุ่งรัตน์ เหม็งพานิช และ นุ๊ก-สมัชญ์ เนียมสอาด ขึ้นร้องเพลงบนเวที แสดงสลับกับวง Rarg Thai Band (วงดนตรี รากไทย) ขับกล่อมเพลงเพราะๆ ให้ชาวไทยได้ฟังคลายความคิดถึงเมืองไทยอีกด้วย

นุ๊ก สมัชญ์ เนียมสอาด The Voice Thailand Season 4 ขับกล่อมบทเพลงบนเวที

น้องไข่มุก – รุ่งรัตน์ เหม็งพานิช จากThe Voice Thailand Season 4 ขึ้นร้องเพลงบนเวที

นายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ ประจำนครซิดนีย์ กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดงาน TGF ว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลไทยที่ประสงค์จะให้ประเทศไทยแสดงสัญลักษณ์ ที่กลางนครซิดนีย์ ถือเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ให้คนออสเตรเลียรู้จักประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น และในแง่มุมต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวัฒนธรรม ซึ่งมีองค์ประกอบมากมายที่สะท้อนให้เห็นในงาน TGF เช่น นาฏศิลป์ การฟ้อนรำ การแสดงพื้นเมือง การสาธิตการประกอบอาหารไทย การสาธิตทำโรตี การสาธิตมวย ตะกร้อ อีกทั้งมีอาหารไทยและสินค้าไทยที่หลากหลายจากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศมาแสดงให้ชาวต่างชาติได้สัมผัส การแสดงดนตรีจาก The Voice Thailand เป็นต้น

การแสดงรำไทยบนเวที

บรรยากาศ ในงาน Thailand Grand Festival 2016 ที่นครซิดนีย์ 1

กงสุลใหญ่ ประจำนครซิดนีย์ กล่าวต่อว่า งาน TGF ที่จัดขึ้นมิใช่เพื่อชาวออสเตรเลีย หรือชาวต่างชาติเท่านั้นสังเกตได้ชัดเจนว่า เมืองที่มีคนไทยพำนักอาศัยอยู่จำนวนมาก มีชุมชนไทยกระจัดกระจายไปทั่ว ย่อมต้องคิดถึงความเป็นไทย อยากมาสัมผัสบรรยากาศแบบไทยๆ เพราะความคิดถึงและความรักต่อประเทศไทยพี่น้องเหล่านี้ต่างพาครอบครัวของตัว เองทั้งที่เป็นออสเตรเลียและชาวต่างชาติมาร่วมด้วย และกลายเป็นงานสังสรรค์รวมญาติมิตรอีกด้วยจึงเป็นความน่าประทับใจอย่างยิ่ง ที่งานนี้ได้จัดขึ้นมากว่า 20 ปีแล้วโดยเริ่มต้นชุมชนไทยจัดขึ้นเอง และต่อมาสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ พร้อมทั้งทีมประเทศไทยได้ร่วมกันจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 แล้ว โดยงาน TGF ครั้งนี้มีทีมประเทศไทยในนครซิดนีย์เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ประกอบด้วย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานการค้าต่างประเทศ สำนักงาน BOI นครซิดนีย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานซิดนีย์ และบริษัทการบินไทยจำกัด สำนักงานซิดนีย์ แต่การจัดงานใดจะสำเร็จไม่ได้หากขาดการสนับสนุนจากชุมชนไทย ผู้ประกอบการธุรกิจไทยในซิดนีย์ ทั้งด้านอาหาร ทัวร์ และสมาคมต่างๆ

บรรยากาศ ในงาน Thailand Grand Festival 2016 ที่นครซิดนีย์ 2

บรรยากาศ ในงาน Thailand Grand Festival 2016 ที่นครซิดนีย์ 3

บรรยากาศ ในงาน Thailand Grand Festival 2016 ที่นครซิดนีย์ 4

นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ส่วนไฮไลต์ของงานมี 2-3 มุมมอง ถ้าเป็นด้านอาหาร คือ การสาธิตอาหารไทย หากเป็นด้านดนตรี ย่อมต้องเป็น The Voice Thailand และหากเป็นวัฒนธรรมไทยก็คือการแสดงนาฏศิลป์ที่คณะจากนครซิดนีย์ ร่วมกับคณะจากกรุงเทพมหานคร ร่วมกันแสดง จากการคาดการณ์ 2 วันที่จัดขึ้น น่าจะมีประมาณ 30,000 คนโดยวันอาทิตย์มีผู้มาเข้าร่วมหนาตากว่าวันเสาร์ ส่วนหนึ่งที่ช่วยให้มีผู้มาเข้าร่วมเยอะมากขนาดนี้นอกจากคนรู้จักเมืองไทย มากขึ้นแล้ว สภาพดินฟ้าอากาศก็เป็นใจด้วย เพราะไม่มีฝนเหมือนปีที่ผ่านมา อีกทั้งการตั้งเต็นท์หลบแดดให้ผู้มาร่วมสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

บรรยากาศ ในงาน Thailand Grand Festival 2016 ที่นครซิดนีย์ 5

บรรยากาศ ในงาน Thailand Grand Festival 2016 ที่นครซิดนีย์ 6

กงสุลใหญ่ ประจำนครซิดนีย์ กล่าวด้วยว่า สุดท้ายในฐานะที่สถานกงสุลใหญ่ฯ และทีมประเทศไทยเป็นหน่วยงานของไทยในนครซิดนีย์ มีหน้าที่สนับสนุนคนไทย และเผยแพร่ความนิยมไทยในบรรดาชาวต่างชาติ และต่างมีเป้าหมายเดียวกันที่จะช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ การทำประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักด้วยการทูตเชิงวัฒนธรรมเช่นนี้ จะต้องทำต่อเนื่อง อันจะนำไปสู่การสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนต่อประชาชน โดยออสเตรเลียติดอยู่กับอาเซียนและไม่ไกลจากประเทศไทยเลย และความเข้าใจระหว่างกันในระดับประชาชนนี้จะมีส่วนอย่างยิ่งที่ช่วยสนับสนุน ให้เพิ่มความร่วมมือระหว่างกันทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมต่อไปในอนาคต.

ประเทศไทยยิ้มรับ งาน ‘ITB 2016’ ชาวยุโรปจองเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/591392

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 15 มี.ค. 2559 21:06

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นปลื้ม นำผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวไทยไปร่วมงาน “ITB 2016” มหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดในโลกที่กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ปรากฏว่ายอดจองนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปเพิ่มขึ้น เนื่องจากพอใจสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ มั่นใจไทยจัดการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น …

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไปร่วมงาน “ITB 2016” มหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เมสเซ เบอร์ลิน เอ็กซิบิชั่น กราวนด์ กรุงเบอร์ลิน ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดเวิร์กกิ้งกรุ๊ป ในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวรายใหญ่ในยุโรปและฝ่ายประเทศไทย โดยนางกอบกาญจน์ได้นำเสนอการท่องเที่ยวไทยด้านต่างๆ และกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว หรือ Sport Tourism พร้อมจัดให้นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หน่วยงานประชาสัมพันธ์และจัดการทองเที่ยว นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รองรับการเดินทางมายังประเทศไทยของนักท่องเที่ยว และ นายจรัมพร โชติกเสถียร กก.ผอ.ใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินหลักในการขนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย มาร่วมแถลงถึงความพร้อมในการดำเนินงานบริการด้านต่างๆ ปรากฏว่าผู้ประกอบการชาวต่างประเทศได้มีการแลกเปลี่ยน และหารือปัญหาต่างๆ ที่ต้องการให้ทางประเทศไทยได้แก้ไขด้วย

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. นิตินัย ศิริสมรรถการ ผอ.บมจ.ทอท. และ จรัมพร โชติกเสถียร กก.ผอ.ใหญ่ บมจ.การบินไทย

ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต่างชติ ร่วมงานคับค่ัง

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การมาร่วมงาน “ITB 2016” ซึ่งเป็นงานท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก และปีนี้ฉลองครบรอบ 50 ปี ถือว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการของไทยที่มาร่วมงาน สามารถรับออร์เดอร์เพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว แต่ส่ิงที่สำคัญไปกว่านั้นคือสิ่งที่เราสามารถสร้างความมั่นใจในตลาดประเทศไทยว่ายังเติบโตด้านการท่องเที่ยว เป็นตลาดที่มีคุณภาพ โดยไทยประกาศตัวเป็นฮับของเอเชีย เป็นการท่องเที่ยวทางการกีฬา และมีโปรดักส์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา ได้พูดถึงเมืองใหม่ 12 เมืองที่เปิดตัวไปปีที่แล้ว และ 12 เมืองใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ ซึ่งตลาดท่องเที่ยวยอมรับมาก

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. นำ 3 รองผู้ว่าการฯ จุฑาพร เริงรณอาษา, วิษณุ เจรญศิลป์ และศุกรีย์ สิทธิวานิชไปโปรโมทเต็มที่

“ตลาดการท่องเที่ยวของประเทศไทยเติบโตโดยรวม รวมทั้งตลาดยุโรป โดยคาดว่าปีนี้ตลาดยุโรปยังคงเติบโตขึ้น การที่มางาน ITB ครั้งนี้ ก็จะทำให้เขามั่นใจ เพราะเรามีโปรดักส์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ที่สามารถนำไปใช้ได้ แต่ส่ิงสำคัญคือเขาพอใจกับการที่เราตั้งเป้าที่จะเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น และชอบที่เราจะเป็นฮับของอาเซียน ในครั้งนี้เราเปิดตัวพร้อมกันทั้ง ททท. สายการบินไทย และบริษัทการท่าอากาศยานไทยทำให้เขารู้สึกเลยว่า เขามีความมั่นใจกับการทำงานที่เป็นพาร์ตเนอร์ชิพครั้งนี้” นางกอบกาญจน์ กล่าว

เชิญชวนมาจัดพิธีวิวาห์ในไทย

ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า การมาร่วมงาน ITB ในปีนี้ ททท.ได้ประเมินแล้วคิดว่าเราประสบความสำเร็จที่ตั้งวางไว้ ในแง่ของผู้ประกอบการเองได้มีการพบกับลูกค้า ได้สัญญาใหม่ๆ หลายเจ้าเหมือนกัน ที่สำคัญที่สุดคือการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในแง่เมืองท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ อยากให้คนต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดยุโรปมองไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น ตรงนี้คิดว่าเราจะประสบความสำเร็จอย่างดีย่ิง

ตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างชาติ พูดถึงประเทศไทย

“ที่สำคัญนอกจากนั้น คือความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ ททท., บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) คงเป็น 3 ทหารเสือ ที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน นำไปสู่ส่ิงที่ทุกคนอยากให้เป็น คือแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพชั้นนำของโลกต่อไป” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

บูธท่องเที่ยวไทย โดดเด่นในงาน ‘ITB 2016’ ที่เยอรมนี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/590807

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 มี.ค. 2559 21:21

บูธท่องเที่ยวไทย โดดเด่นในงาน 'ITB 2016' ที่เยอรมนี

บูธท่องเที่ยวไทย ทั้ง ททท., จังหวัด, สายการบิน และเครือโรงแรม ได้รับความสนใจล้นหลาม ในงาน ‘ITB 2016’ ที่เยอรมนี สื่อนอกพาดหัว ไทยได้รับความนิยมมากที่สุด จากชาวสแกนดิเนเวีย ขณะที่ ไตรมาสแรกปี 59 มียอดจองมาเที่ยวไทย เพิ่ม 23.2%

นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ รายงานจากประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ว่า การจัดงาน “ITB 2016” มหกรรมด้านการท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดในโลก ที่กรุงเบอร์ลิน ปีนี้ คูหาของประเทศไทยโดดเด่นได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ มาเจรจาติดต่อจองโรงแรมและบริษัทท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับจังหวัดต่างๆ ออกบูธกิจกรรม อาทิ จังหวัดชลบุรี, ภูเก็ต, กระบี่-พังงา, สุราษฎร์ธานี, ชะอำ-หัวหิน รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ อาทิ บูธการบินไทย, บางกอกแอร์เวย์ส และเครือโรงแรมเซ็นทารา ซึ่งก็ได้รับความสนใจ มีบริษัทต่างๆ ไปเจรจาเป็นคู่ค้าไม่ขาดสาย ใน 3 วันแรก ระหว่าง 9-11 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเปิดให้เจรจาธุรกิจกัน

คนสนใจขอข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย

นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านยุโรปฯ ททท. ถ่ายภาพกับทีมนักแสดงที่ไปร่วมงาน

จากนั้น 2 วันสุดท้าย ระหว่างวันที่ 12-13 มี.ค. เปิดโอกาสให้ผู้สนใจท่ัวไปได้เข้าชมงานและติดต่อสอบถามจองโรงแรมและบริษัททัวร์ด้วยตนเอง ปรากฏว่า คูหาของประเทศไทย ได้รับความสนใจจากชาวต่างประเทศไปติดต่อสอบถามจองที่พัก และบริษัทท่องเที่ยวกันแน่นขนัด โดยเสียค่าเข้าชมงานวันละ 15 ยูโร พร้อมกันนี้ ต่างรอคอยชมการแสดงนาฏศิลป์ไทยในชุดต่างๆ และที่ขาดไม่ได้ เรียกเสียงฮือฮาตลอด คือ การแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมชาวต่างประเทศ

ผู้ว่าการ ททท.รับ 2 รางวัล “Go Asia Awards”

นายศุกรีย์ สิทธิวานิช รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. เปิดเผยว่า ปีนี้ประเทศไทยก็ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวยุโรป หนังสือพิมพ์ TTG Show Daily ที่พิมพ์แจกในงาน ยังให้ความสำคัญกับประเทศไทย มีการรายงานข่าวพาดหัวใหญ่ว่า ประเทศไทยได้รับความนิยมมากที่สุดจากชาวสแกนดิเนเวีย ที่ออกท่องเที่ยวนอกประเทศ โดยในไตรมาสแรกปี 2559 มียอดจองมาเที่ยวประเทศไทยมากที่สุด เพิ่มขึ้นถึง 23.2% นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับ รางวัล “GO ASIA Awards” ถึง 2 รางวัล จากการโหวตของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวของเยอรมนีในงานนี้ ได้แก่ รางวัลที่ 1 ประเภทประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในเอเชีย และรางวัลที่ 2 ประเภทการบริหารองค์กรท่องเที่ยวดีเด่น

นายประกิต พิริยะเกียรต์ ไปช่วยบูธกีวหิน-ชะอำ

ด้าน นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ที่ร่วมนำคณะผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมของจังหวัดชลบุรีและเมืองพัทยา ไปออกบูธในงานครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า จังหวัดชลบุรีก็ยังมีจุดขายที่อยู่ในความนิยมของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ลูกค้าที่ติดต่อกันมานานได้มาพบปะกัน ก็ยังยืนยันจะไปเที่ยวพัทยา และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ขณะเดียวกันก็หวังจะได้นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นด้วย

ส่วน น.ส.สุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผอ.ททท.สนง.พัทยา เปิดเผยว่า ปีนี้จังหวัดชลบุรีนับว่าประสบความสำเร็จ เพราะได้บริษัทท่องเที่ยวใหญ่ในยุโรปมาติดต่อนำนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ไปเที่ยวเพิ่มขึ้น ได้แก่ เยอรมนี โปรตุเกส อิตาลี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ กระจายสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่เมืองพัทยา และนาจอมเทียน

ทีม กทม.ไปโปรโมทเที่ยวสงกรานต์

บูธบางกอกแอร์เวย์ ได้ลูกค้าคึกคัก

ด้านกลุ่มจังหวัดแถบฝั่งอันดามัน ที่ไปออกบูธเดี่ยวและชูจุดขายการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวที่นิยมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จองที่พักเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ที่มีทั้งเกาะและชายทะเล ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่ายังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก และมีสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีอยู่.

โชว์นาฏศิลป์ไทย คนดูชาวต่างชาติชื่นขอบ

โชว์แม่ไม่มวยไทย

โชว์แม่ไม่มวยไทย

การแสดงนาฏศิลป์

การแสดงนาฏศิลป์

แฟนมวยขอถ่ายภาพ กับนักมวยไทย