“มะยงชิดท่าอิฐ” ดกใหญ่หวานกินขายคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 6 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/601389

 

มะยงชิดชนิดนี้ มีประวัติเริ่มปลูกในยุคสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นมะปรางชนิดหนึ่งที่เกิดจากการกลายพันธุ์จนผลมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื้อหนา เมล็ดเล็ก รสชาติหวานนำและปนเปรี้ยวตามเล็กน้อย วัดความหวานได้ประมาณ 17.1 องศาบริกซ์ ในสมัยดังกล่าวนิยมเรียกว่า มะปรางเสวย และมีแหล่งปลูกใหญ่ในท้องที่ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.นนทบุรี จากนั้นได้กระจายพันธุ์ปลูกไปยังพื้นที่ใกล้เคียงแถบ ต.บางขุนนนท์ อ.บางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี ในยุคสมัยนั้น ได้รับความนิยมจากผู้ปลูกและผู้รับประทานอย่างกว้างขวางในชื่อ “มะยงชิดท่าอิฐ” ตามแหล่งปลูกครั้งแรกและเรียกกันเรื่อยมาจนทุกวันนี้

มะยงชิดท่าอิฐ อยู่ในวงศ์ ANACARDIACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 5-10 เมตร ใบออกตรงกันข้ามรูปรีแกมรูปไข่กลับ ปลายและโคนใบแหลม เนื้อใบค่อนข้างหนาและแข็ง สีเขียวสดเป็นมัน ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกเป็นสีขาวหรือสีขาวนวล “ผล” รูปไข่ค่อนข้างยาวและรี ผลโตเต็มที่ประมาณไข่เป็ด มีน้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 10-15 ผลต่อ 1 กิโลกรัม ผลสุกเป็นสีเหลือง เนื้อในเยอะ เนื่องจากเมล็ดเล็ก เนื้อสุกเป็นสีเหลืองอมส้ม รสชาติหวานปนเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่มีเสี้ยนและไม่มียางขม รับประทานอร่อยมาก สามารถเก็บผลได้หลายวันโดยผลไม่ช้ำหรือเละแต่อย่างใด ติดผลดกปีละครั้งตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด

มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ โครงการ 11 แผง “คุณหมู” โทร.08-1861-6644 ราคาสอบถามกันเอง ปลูกเก็บผลกินในครัวเรือนหรือเก็บผลขายคุ้มค่ามาก การปลูก รดน้ำพอชุ่มวันละครั้ง บำรุงปุ๋ย 16-16-16 สลับกับโรยขี้วัวขี้ควายแห้งเดือนละครั้ง เมื่อต้นติดผลโตเท่าปลายนิ้วหัวแม่มือผู้ใหญ่ ใส่ปุ๋ย 13-13-21 พร้อมฉีดสารสะเดาป้องกันแมลง หลังเก็บเกี่ยวผลแล้วต้องตัดแต่งกิ่งทันที และปฏิบัติเหมือนเดิมตามที่กล่าวข้างต้น จะทำให้ “มะยงชิดท่าอิฐ” ติดผลดกเช่นเดิมครับ.

นายเกษตร

 

“มะม่วงทุเรียน” กับที่มาชื่อมีต้นขาย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 5 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/600820

 

มะม่วงชนิดนี้ มีต้นวางขายมีป้ายชื่อเขียนติดไว้ว่า “มะม่วงทุเรียน” พร้อมมีภาพถ่ายผลจริงโชว์ให้ชมด้วย ซึ่งมะม่วงดังกล่าวเป็นพันธุ์ไทยโบราณที่นิยมปลูกเฉพาะถิ่นในแถบจังหวัดภาคกลางไม่กี่จังหวัดมาช้านานแล้ว เพื่อเก็บผลกินในครัวเรือนเท่านั้น ไม่แพร่หลายเหมือนกับมะม่วงดังในปัจจุบัน จึงทำให้เป็นมะม่วงไทยโบราณสายพันธุ์หนึ่งที่มีผู้ปลูกพากันเสาะหาอย่างกว้างขวางในเวลานี้ เมื่อพบมีต้นวางขายเลยแจ้งให้ทราบทันที

ส่วนที่มาชื่อ “มะม่วงทุเรียน” นั้น ผู้ขายกิ่งตอนบอกว่า เนื่องมาจากเนื้อสุกของมะม่วงดังกล่าว นอกจากจะมีรสหวานแล้ว ยังมีกลิ่นหอมแปลกคล้ายกลิ่นของเนื้อทุเรียนนิดๆอีกด้วย ถือเป็นเรื่องประหลาดมาก จึงถูกตั้งชื่อว่า “มะม่วงทุเรียน” ดังกล่าว และเรียกกันมาจนทุกวันนี้ ผู้ขายกิ่งตอนบอกต่อว่าที่บ้าน จ.ลพบุรีมีปลูกไว้ 1 ต้น กำลังติดผลโตยังไม่ถึงสุก ใครต้องการเดินทางไปชมสอบถามเส้นทางได้

มะม่วงทุเรียน เป็นไม้ยืนต้นสูง 10-15 เมตร ใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่บริเวณปลายยอดใบรูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนมน ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก เป็นสีเหลืองนวล ดอกมีกลิ่นหอม “ผล” รูปกลมรีและอวบอ้วน ผลมีขนาดใหญ่โตเต็มที่ มีน้ำหนักเฉลี่ย 7-8 ขีดต่อผล ผลดิบสีเขียว รสเปรี้ยวจัดปอกเปลือกฝานจิ้มพริกเกลือป่นได้ ผลแก่จัดแต่ยังไม่ถึงสุกรสมันปนหวานกินเป็นมะม่วงมันเฉยๆได้เลย ผลสุกเนื้อเหนียวไม่เละแม้สุกงอม ไม่มีเสี้ยน รสชาติหวานมีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นทุเรียนตามที่กล่าวข้างต้น คนขายกิ่งตอนบอกว่ารับประทานอร่อยมาก ติดผลดกเต็มต้นตามฤดูกาลปีละครั้ง ขยายพันธุ์ทั่วไปด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง และเสียบยอด

มีต้นแท้ที่ขยายพันธุ์ด้วยระบบเสียบยอดขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 17 แผง “นายดาบสมพร” โทร.08-6605-4945 ราคาสอบถามกันเอง เหมาะจะปลูกเก็บผลกินในครัวเรือนหรือเก็บผลขายได้คุ้มค่ามากครับ.

นายเกษตร

 

“ลูกเดือย”แก้คาวปลาสตรี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 4 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/600479

 

หญิง โสดและไม่โสดมักจะมีอาการตกขาวกันเยอะ เป็นแล้วทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงปรารถนาและทำให้กลุ้มใจมากต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางรักษาประจำ ซึ่งถ้าหากไม่ได้เกิดอาการตกขาวเพราะติดเชื้อ ในทางสมุนไพรให้เอา “ลูกเดือย” ครึ่งกิโลกรัมต้มกับน้ำ 2 ลิตรจน “ลูกเดือย” สุกแล้วเอาเฉพาะน้ำกินครั้งละ 1 แก้ว ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เช้ากลางวันเย็น กินจนยาจืดจึงใช้ “ลูกเดือย” ใหม่ต้มกินต่อเหมือนวิธีแรกจะสังเกตได้ว่าอาการตกขาวจะค่อยๆดีขึ้นหรือแห้งหายได้ในที่สุด เมื่อหายแล้วหยุดต้มกินได้ ไม่มีอันตรายอะไร

ลูกเดือย หรือ COIX LACHYMA JOBI LINN. อยู่ในวงศ์ GRAMINEAE มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหารสูง เหมาะสำหรับเป็นอาหารเสริมที่อุดมด้วยธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ช่วยในการรักษาโรคบวมน้ำ โรคแน่นหน้าอก กล้ามเนื้อตึงและปวดเส้นประสาทได้ดีระดับหนึ่ง

ครับ หนังสือ “สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก” เล่มที่ 5 ของ “นายเกษตร” ไม่วางขายที่ไหนหมดแล้วหมดเลย ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย “คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์” ตู้ ปณ.48 ปณ.สามแยกลาดพร้าว กทม. 10901 หรือสอบถามผลิตภัณฑ์สมุนไพร โลชั่นบำรุงผิว มีส่วนผสมของกวาวเครือขาวด้วย, ข่อยสีฟัน เป็นผงไม่มีฟอง รักษาเหงือกฟันแข็งแรง, ข่อยขัดรักแร้ ดับกลิ่นเต่ารักษารักแร้ดำคล้ำ, น้ำมันงาบริสุทธิ์ ทาผิวป้องกันผิวแห้งหมักผมดีมาก, ครีมโลดทะนง รักษาสิวฝ้ารูขุมขนตีบลง, น้ำมัน 12 ประดง ทาภายนอกฆ่าเชื้อสมานแผล แก้เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน แพ้เหงื่อ, ยาริดสีดวงจมูกแคปซูล แก้น้ำมูกมีกลิ่นเหม็น, เพชรสังฆาตแคปซูล แก้ริดสีดวงทวาร, คอลลาเจนบริสุทธิ์ เป็นผงทาหน้าช่วยให้ผิวหน้ากระชับ, ยาต้มคลายเส้นไม้เท้าเฒ่าอาลี แก้ปวดเมื่อย แก้เกาต์ ลดเบาหวาน, ตรีผลาแคปซูล ลดไขมันในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์, ดีบัวแคปซูล ขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองหัวใจ, ยาบำรุงไตแคปซูลไม่ใช่รักษาไต, ยาลดเบาหวานแคปซูลและอื่นๆโทร. 0–2275–2692 ครับ.

“นายเกษตร”

 

“พริกไทยซีลอนพุ่มเตี้ย” ปลูกกระถางผลดกคุ้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 1 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/598921

 

ปัจจุบัน การปลูกพืชครัวกำลังเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ในสังคมคนเมือง โดยส่วนใหญ่จะนิยมปลูกลงกระถางเพื่อเก็บใช้ประโยชน์ได้ง่ายๆ และ “พริกไทยซีลอนพุ่มเตี้ย” จัดเป็นพืชครัวชนิดหนึ่งที่ผู้ปลูกชอบปลูกกันมาก เนื่องจากปลูกแล้วใช้นํ้าน้อย สามารถปลูกลงกระถางตั้งในที่มีแสงแดดส่องถึงทั้งวัน มีดอกและติดผลดก เก็บผลสดรับประทานได้แบบง่ายๆ ไม่ต้องควักเงินไปซื้อเขากินให้เปลืองสตางค์และคุ้มค่ามาก นั่นเอง

พริกไทยซีลอนพุ่มเตี้ย เกิดจากการพัฒนาพันธุ์จากพริกไทยซีลอนดั้งเดิมที่เป็นไม้เถาเลื้อยจนได้กลายพันธุ์เป็นพริกไทยใหม่ มีลักษณะแตกต่างจากพริกไทยซีลอนดั้งเดิมอย่างชัดเจนคือ ได้กลายเป็นไม้พุ่มเตี้ย ไม่เป็นไม้เถาเลื้อยเหมือนลักษณะทางพฤกษศาสตร์เดิม ที่สำคัญจะมีดอกและติดผลดกแบบไม่ขาดต้นเกือบตลอดทั้งปีอีกด้วย จึงถูกตั้งชื่อว่า “พริกไทยซีลอนพุ่มเตี้ย” ดังกล่าว

พริกไทยซีลอนพุ่มเตี้ย หรือ PEPPER PIPER NIGRUM LINN. อยู่ในวงศ์ PIPER-ACEAE เป็นไม้พุ่ม สูงไม่เกิน 1 เมตร ลำต้นเป็นข้อโป่งนูน มีรากฝอยตามข้อ ใบออกเรียงสลับรูปรีแกมรูปใบหอก ปลายแหลม โคนมน ดอก เป็นดอกแยกเพศ ออกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกสีขาวแกมเขียว “ผล” รูปทรงกลม เรียงตัวแน่นตามแกนช่อจำนวนมาก ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกเป็นสีแดงหรือคลํ้า รสเผ็ดร้อนมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมเอาผลสดหรือแห้งปรุงอาหารหลากหลายอย่างทั่วโลก เป็นเครื่องเทศ เป็นสมุนไพร และมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตมนุษย์อย่างมาก มีดอกติดผลเกือบทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำต้น

ใคร ต้องการต้นแท้ ติดต่อ “คุณประภาส สุภาผล” 33/4 หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร. 08-8533-2299 ราคาสอบถามกันเอง สามารถปลูกลงกระถางมีดอกและติดผลดกได้เหมือนกับการปลูกลงดินทุกอย่าง ต่างจังหวัดผู้ขายจัดส่งทางไปรษณีย์ได้ด้วยครับ.

“นายเกษตร”

 

“เข็มออสเตรเลีย” ดอกสวยใบแปลก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 31 มี.ค. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/598398

 

เข็มชนิดนี้ มีต้นวางขาย แต่ละต้นปลูกในกระถางดำกว้างประมาณ 1 ฟุต ต้นสูงแค่ฟุตกว่าๆ มีดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ ลักษณะดอกเหมือนดอกเข็มทั่วไปทุกอย่าง สีสันของดอกสวยงามมาก และที่แปลกและแตกต่างจากต้นเข็มทั่วไปได้แก่ ใบของต้นเข็มดังกล่าวจะมีความยาวและมีขนาดใหญ่ไม่เหมือนใบของต้นเข็มทั่วไปอย่างชัดเจน ผู้ขายบอกว่า เป็นต้นเข็มใหม่นำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย จึงถูกตั้งชื่อว่า “เข็มออสเตรเลีย” ส่วนชื่อเฉพาะและชื่อวิทยาศาสตร์ผู้ขายไม่รู้ “นายเกษตร” เห็นว่าดอกสวยใบแปลกจึงแนะนำให้รู้จักตามระเบียบ

เข็มออสเตรเลีย เท่าที่ดูจากต้นจริงและสอบถามผู้ขายประกอบพอจะระบุลักษณะทางพฤกษศาสตร์ได้ดังนี้คือ เป็นไม้พุ่มสูง 1-1.5 เมตร แตกกิ่งก้านโปร่งๆ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้ามหนาแน่นในช่วงปลายยอด ก้านใบสั้น ใบแปลกกว่าใบของต้นเข็มทั่วไปตามที่กล่าวข้างต้นคือ ใบเป็นรูปใบหอกหรือรูปรียาวประมาณครึ่งฟุต ปลายแหลม โคนสอบ สีเขียวสด ซึ่งใบของต้นเข็มทั่วไปจะรีป้อมสั้นและมีขนาดเล็กกว่าชัดเจน

ดอก ออกเป็นช่อขนาดใหญ่ที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกเป็นหลอดเชื่อมติดกันขนาดเล็ก ปลายแยกเป็นกลีบดอก 4-5 กลีบ มีเกสรตัวผู้ 4 อัน กลีบดอกเป็นสีแดงอมชมพู เวลามีดอกหลายๆช่อและดอกบานพร้อมกันจะดูสวยงามสดใสมาก “ผล” รูปค่อนข้างกลม เมื่อผลสุกเป็นสีคลํ้า ภายในมีเมล็ด ดอกออกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่งและปักชำกิ่ง

ปัจจุบัน “เข็มออสเตรเลีย” มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 2 แผง “ป้าแอ๊ด-คุณขวัญ” ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกทั้งแบบลงดินกลางแจ้งจำนวนหลายๆต้น และปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ตั้งประดับในที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน รดนํ้าบำรุงปุ๋ยสมํ่าเสมอ เวลามีดอกจะสวยงามสดใสมากครับ.

“นายเกษตร”

 

“มะนาวนิ้วมือ” แหล่งใหญ่ มีเกือบทุกสีขาย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย นายเกษตร 30 มี.ค. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/597785

 

การปลูกพืชใช้นํ้าน้อย เป็นเรื่องที่ผู้ปลูกต้องเน้นหนัก เนื่องจากประเทศไทยบ้านเราตอนนี้กำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ซึ่ง “มะนาวนิ้วมือ” เป็นพืชชนิดหนึ่งที่ปลูกแล้วใช้นํ้าน้อยโดยธรรมชาติ มีมากกว่า 20 สายพันธุ์ แต่ละพันธุ์จะมีความแตกต่างกันที่สีของเปลือกผลกับสีของเนื้อในผล เช่น สายพันธุ์ที่เปลือกผลเป็นสีแดง เนื้อในผลจะเป็นสีเดียวกัน ขณะที่สายพันธุ์เปลือกผลเป็นสีเขียวอมดำ เนื้อในกลับเป็นสีขาวใส และชนิดเปลือกผลเป็นสีเหลือง เนื้อในจะเป็นสีแดงอมชมพูหรือสีเหลืองและสีม่วง เป็นต้น ส่วนรสชาติเปรี้ยวมีกลิ่นหอมเหมือนกันทุกอย่าง

มะนาวนิ้วมือ เป็นไม้พื้นเมืองของประเทศออสเตรเลีย พบขึ้นตามป่าที่เป็นทะเลทรายทั่วไป มีชื่อว่า AUSTRALIAN FINGER LIME, CAVIER LIME เป็นไม้พุ่ม สูง 3 เมตร ใบเล็ก ออกเรียงสลับ รูปรีกว้าง ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกสีขาว “ผล” รูปกลมยาวประมาณ 8-16 ซม. ดูเหมือนกับนิ้วมือมนุษย์ จึงถูกเรียกว่า “มะนาวนิ้วมือ” ส่วนเนื้อในผลเป็นเม็ดกลมใสๆจำนวนมาก ดูคล้ายไข่ปลาคาเวียร์ เลยถูกเรียกอีกชื่อว่า “มะนาวคาเวียร์” และเรียกชื่อรวมๆในประเทศไทยว่า “มะนาวนิ้วคาเวียร์” ภายในผลที่มีเม็ดกลมใสๆ จะมีนํ้าเป็นสีสันตามแต่ละสายพันธุ์ที่ระบุข้างต้น ตัวเม็ดดังกล่าวจะไม่ติดกับเปลือกผล เมื่อผ่าผลแล้วสามารถใช้ช้อนตักเอาเม็ดเคี้ยวในปากได้เลย มีเสียงดังเป๊าะแป๊ะๆ รสชาติไม่เปรี้ยวจัดมากนัก มีกลิ่นหอมรับประทานอร่อยมาก ในต่างประเทศนิยมนำไปปรุงอาหารคาวหวานหลากหลายชนิด ในประเทศไทยมีผลวางขายตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆหลายแห่ง ราคาไม่ตํ่ากว่า 200 บาทต่อ 1 กิโลกรัมขึ้น มีดอกและติดผลดกทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยระบบเสียบยอดกับตอส้มโอ

ใคร ต้องการต้นแท้มีเกือบทุกสายพันธุ์ ติดต่อ “สวนณัฐมะนาวนิ้ว” โทร. 09-5593-2468, 08-6383-3061 ราคาเริ่มตั้งแต่ 150 บาทขึ้นไปตามขนาดของต้น ปลูกได้ในดินทั่วไป เป็นพืชใช้นํ้าน้อยโดยธรรมชาติ ปลูกแล้วเก็บผลกินหรือขายสุดคุ้มครับ.

“นายเกษตร”

 

‘ไคร้มด’ ไม้พุ่มประดับ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/agricultural/226679

เกษตร/ทำกิน/สัตว์เลี้ยง > วิถีพอเพียง  :  29 เม.ย. 2559

‘ไคร้มด’ ไม้พุ่มประดับ

ไม้ดีมีประโยชน์ : ‘ไคร้มด’ ไม้พุ่มประดับ : โดย…นายสวีสอง

                    “ไคร้มด” บางพื้นที่เรียก ลำบิด เป็นไม้ประดับเพราะทรงต้นเป็นพุ่มสวย ยิ่งเมื่อผลสุกสีแดงสวยงามมาก ผลกินได้รสหวานปะแล่ม
                    เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง ในวงศ์ EBENACEAE ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านเป็นพุ่ม สูง 2-15 เมตร เปลือกสีเทา
                    ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ทรงรี โคนใบสอบ ปลายมน เนื้อใบหนา ขอบเรียบ มีเส้นแขนงใบ 8-12 คู่
                    ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกเพศผู้และเมียอยู่ต่างต้น กลีบดอกปลายแยกเป็น 3 แฉก โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด สีขาวอมเหลือง ตรงกลางมีเกสรผู้ 6-12 อัน
                    ผล กลมรีๆ เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 ซม. ผิวเกลี้ยง เมื่อแก่จะแห้งแตก
                    ขยายพันธุ์ ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ชอบขึ้นตามโขดหินชายทะเลและป่าดิบ
———————–
(ไม้ดีมีประโยชน์ : ‘ไคร้มด’ ไม้พุ่มประดับ : โดย…นายสวีสอง)

‘กล้วยเต่า’ ดับพิษไข้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/agricultural/226609

เกษตร/ทำกิน/สัตว์เลี้ยง > วิถีพอเพียง  :  28 เม.ย. 2559

‘กล้วยเต่า’ ดับพิษไข้

ไม้ดีมีประโยชน์ : ‘กล้วยเต่า’ ดับพิษไข้ : โดย…นายสวีสอง

                    บางพื้นที่เรียก “กล้วยเต่า” ว่า ก้นคก ปกคก หรือสกคก เป็นพืชที่ผลกินเล่นได้ ขณะที่ในส่วนของรากมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร คือนำไปต้มน้ำดื่มแก้ตัวร้อน ดับพิษไข้ แก้วัณโรค แก้ปวดท้อง ดับพิษตานซางได้
                    เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก อยู่ในวงศ์ ANNONACEAE ลำต้นสูงราว 30-60 เซนติเมตร แตกกิ่งก้านเป็นทรงพุ่ม เปลือกต้นสีเทาน้ำตาล ตามกิ่งมีขนสีน้ำตาลคลุม
                    ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงตามกิ่ง ทรงรี กว้าง 2-4 เซนติเมตร ยาว 5-8 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ โคนใบสอบ ปลายใบมนแหลม มีเส้นแขนงใบ 5-6 คู่
                    ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวขนาดเล็กตามซอกใบ และปลายกิ่ง เวลาบานสีเหลืองอมเขียว
                    ผล ออกเป็นกลุ่ม รูปทรงกระบอก สีเหลือง ผลสุกรับประทานได้ ด้านในเมล็ดมีสีดำ
                    ขยายพันธุ์ ด้วยเมล็ด ชอบดินร่วน ความชื้นและแสงแดดปานกลาง
———————-
(ไม้ดีมีประโยชน์ : ‘กล้วยเต่า’ ดับพิษไข้ : โดย…นายสวีสอง)

‘ทับทิมหนู’ ปลูกประดับ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/agricultural/226532

เกษตร/ทำกิน/สัตว์เลี้ยง > วิถีพอเพียง  :  27 เม.ย. 2559

‘ทับทิมหนู’ ปลูกประดับ

ไม้ดีมีประโยชน์ : ‘ทับทิมหนู’ ปลูกประดับ : โดย…นายสวีสอง

                    นิยมปลูกเป็นไม้ประดับสำหรับ “ทับทิมหนู” ถิ่นกำเนิดที่สเปน มีหลายสี ขาว แสด ชมพู แดงดำ บ้านเราพบเฉพาะสีแสด คล้ายทับทิมทั่วไป แต่ต้นเตี้ย ใบ ผล เล็กกว่า ผลกินได้ ขณะที่เปลือกผล รักษาโรคท้องร่วง ถ่ายพยาธิ
                    เป็นไม้พุ่มเตี้ยในวงศ์ PUNICACEAE ลำต้นสูงเพียง 1-2 ฟุต เปลือกต้นสีน้ำตาล
                    ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงตรงข้ามตามกิ่ง ทรงเรียวแคบ โคนใบสอบ ปลาบแหลม มีติ่ง ขอบใบเรียบ
                    ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ ปลายกิ่ง มีกลีบรองดอกทรงกรวย ส่วนกลีบดอกซ้อนกันราว 8 กลีบสีแดงสด แผ่นกลีบย่น
                    ผล ทรงกลมเหมือนทับทิมทั่วไปแต่เล็กกว่า ผลแก่สีแดง
                    ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำกิ่ง ชอบความชื้นและแสงแดดปานกลาง
———————–
(ไม้ดีมีประโยชน์ : ‘ทับทิมหนู’ ปลูกประดับ : โดย…นายสวีสอง)

‘โทงเทง’ รักษาเบาหวาน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/agricultural/226483

เกษตร/ทำกิน/สัตว์เลี้ยง > วิถีพอเพียง  :  26 เม.ย. 2559

‘โทงเทง’ รักษาเบาหวาน

ไม้ดีมีประโยชน์ : ‘โทงเทง’ รักษาเบาหวาน : บายไลน์…นายสวีสอง

      โทงเทง หรือต้อมต๊อก ปุงปิง ปิงเป้ง แต่ละท้องถิ่นจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป จัดเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีชื่อวิทยาศาสตร์ Physalis angulata L. จัดอยู่ในวงศ์ SOLANACEAE ลำต้นสูงประมาณ 25-50 เซนติเมตร
      ใบ เป็นใบเดี่ยวสีเขียวเรียงสลับออกตามข้อ ข้อละใบ มีก้านยาว 2-3 เซนติเมตร ลักษณะใบคล้ายใบพริก
      ดอก ออกระหว่างก้านใบกับลำต้น คล้ายดอกพริก แต่กลีบดอกสั้นและแข็งกว่า ออกดอกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เรื่อยไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน
      ผล โทงเทงมีกลีบดอกชั้นนอกหุ้มเหมือนโคมจีนสีเขียวอ่อนมีลายสีม่วง ภายในมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ผลกลมใสมีสีเขียวอ่อน และเมื่อสุกกลายเป็นสีเหลือง ในผลมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก มีเมือกหุ้มคล้ายมะเขือเทศจำนวนมาก
      สรรพคุณทางยา รากรักษาเบาหวาน